“อนุชา”สั่งการ พศ. ตรวจสอบด่วน กรณีพระวัดดวงแขพร้อมเจ้าหน้าที่ติดโควิด เบื้องต้นให้งดเดินบาตร หวั่นแพร่เชื้อประชาชน
นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวการร้องเรียนของประชาชนที่อาศัยในชุมชนวัดดวงแข แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กทม. ว่าพระวัดดวงแขติดโควิด-19 แต่ยังคงออกเดินบิณฑบาตในช่วงเช้าทุกวัน สร้างความวิตกกังวลแก่ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงและพุทธศาสนิกชนที่รอใส่บาตร กลัวจะเป็นสาเหตุของการแพร่เชื้อโควิด-19 ในชุมชนและส่งผลกระทบวงกว้างนั้น ได้สั่งการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เร่งติดตามสถานการณ์และให้ความช่วยเหลืออย่างใกล้ชิดโดย พศ. ได้ประสานสำนักอนามัยเข้าตรวจหาเชื้อพระสงฆ์ เจ้าหน้าที่ และผู้ใกล้ชิดทั้งหมดภายในวัด โดยมีพระสงฆ์จำวัด จำนวน 38 รูป ทุกรูปได้รับถวายวัคซีน ยกเว้นเจ้าอาวาสและผู้ช่วยเจ้าอาวาส 2 รูป เนื่องจากชราภาพ
จากการตรวจหาเชื้อ พบพระสงฆ์ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 11 รูป เจ้าหน้าที่พร้อมครอบครัว ติดเชื้อ 6 คน โดยได้ทำการแยกกักตัวผู้ที่ติดเชื้อออกจากผู้อื่นแล้ว และขอความร่วมมือห้ามพระสงฆ์ออกบิณฑบาต จนกว่าจะรักษาตัวผู้ติดเชื้อในวัดหายเป็นปกติ นอกจากนี้ ทางวัดได้จัดตั้งศูนย์พักคอย เพื่อเป็นจุดรองรับผู้ติดเชื้อโควิดในชุมชนอีกด้วย ซึ่งทาง พศ.ได้นำเครื่องอุปโภคบริโภคจำเป็นถวายแด่ทางวัดเพื่อใช้ในช่วงที่ไม่สามารถออกบิณฑบาตได้ และช่วยเหลือประชาชนที่มารักษาตัวในศูนย์พักคอยของทางวัด
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พระสงฆ์และเจ้าหน้าที่ภายในวัดเป็นส่วนที่ใกล้ชิดประชาชนในทุกชุมชน เพราะวัดเป็นศูนย์กลางชุมชน เป็นจุดศูนย์รวมของพุทธศาสนิกชนรัฐบาลได้ดำเนินการถวายวัคซีนพระสงฆ์อย่างต่อเนื่องทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และได้ขอความร่วมมือทุกวัดงดการจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มคนหมู่มาก เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19แม้หลายวัดที่ยังคงมีพระสงฆ์ออกบิณฑบาตตามกิจวัตรทางพระพุทธศาสนา จึงขอความร่วมมือพระสงฆ์และประชาชนปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคติดต่อระหว่างการใส่บาตรอย่างเคร่งครัด เช่น สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ของถวายพระต้องอยู่ในบรรจุภัณฑ์แบบปิด มีการเว้นระยะห่างหรือจุดจัดวางของถวาย สวมใส่ถุงมือหรือล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้งเมื่อใส่บาตร เป็นต้น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news