พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมสถานีกลางบางซื่อ ว่า โครงการสถานีกลางบางซื่อ เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ชาติ ในการพัฒนาระบบขนส่ง ซึ่งเป็นตัวอย่างของยุทธศาสตร์ชาติ ที่จะต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในแต่ละรัฐบาล ตามแผนแม่บทที่กำหนดไว้และจากการทดสอบระบบในวันนี้ มั่นใจว่า ประชาชนจะได้รับความสะดวก และมีความปลอดภัย รวดเร็ว สามารถลดเวลาการเดินทางได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า การควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ภายในประเทศยังคงเข้มงวด ทั้งแนวชายแดน ที่สามารถติดตามตรวจสอบได้ พร้อมกังวลว่าการรวมคนจำนวนมากเข้าไปทำกิจกรรมในที่แคบ ไม่มีระยะห่าง มีความอันตรายเป็นอย่างมาก เพราะสามารถเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อได้ ดังนั้น การจัดกิจกรรมที่มีการรวมคนมาก ๆ เช่นการจัดกิจกรรมนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ หากไม่มีการควบคุม หรือไม่เข้มงวด ก็จะทำให้เกิดการแพร่เชื้อไปยังภูมิลำเนา ซึ่งรัฐบาลไม่อยากให้สถานการณ์ ต้องกลับไปถึงกับล็อกดาวน์ประเทศอีก นี่ไม่ใช่การขู่ แต่เป็นการป้องกัน เพราะประเทศกำลังเดินหน้าเข้าสู่ปีใหม่ ไม่อยากให้ประเทศกลับไปสู่ความทุกข์ ด้วยการล็อคดาวน์ประเทศแบบเดิม จึงขอประชาชนให้ความร่วมมือ รักษาระยะห่าง และปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข
ส่วนการดูแลตามแนวชายแดน เพื่อป้องกันผู้ลักลอบเข้าเมืองนั้น นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า ขณะนี้ ได้กำลังเพิ่มทหารชายแดน และเพิ่มโดรนบินสำรวจ การเพิ่มรั้วลวดหนาว พร้อมขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการทำงานด้วย
นายกรัฐมนตรี ยังย้ำด้วยว่า การประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินขณะนี้ เพื่อรักษาสุขภาพของประชาชน ไม่ได้เกี่ยวข้องเรื่องอื่น ๆ และไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งกันภายในประเทศ จึงขอให้ทุกคนรักษาความสงบ ลดความขัดแย้ง และเคารพกฎหมาย พร้อมย้ำว่า พร้อมทุ่มเททำงานให้กับประชาชน และจะประคับประคองสถานการณ์ ให้สามารถฟื้นตัวได้โดยเร็ว
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 ว่า รัฐบาลมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมมือหลากหลายภาคส่วน ทั้งการลดการเผา ลดการใช้รถใช้ถนน ใช้ขนส่งสาธารณะให้มากที่สุด ลดการเผาเพื่อการเพาะปลูก หรือแม้แต่ระบบอุตสาหกรรม แต่จะต้องให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนน้อยที่สุด และห่วงว่า เด็กเล็ก หรือผู้สูงอายุ จะได้รับผลกระทบจากฝุ่นในครั้งนี้มากที่สุดซึ่งสถานการณ์ส่วนหนึ่ง
ก็เป็นเพราะสภาพอากาศ รวมถึงสภาพอากาศจากประเทศเพื่อนบ้านด้วย
ส่วนการปิดโรงเรียน สถานศึกษา หากสถานการณ์ฝุ่นละอองทวีความรุนแรงเพื่มขึ้นนั้น นายกรัฐมนตรี ขอให้เป็นเรื่องที่สถานศึกษาจะพิจารณา