ครม.อนุมัติวงเงินมัดจำวัคซีนไฟเซอร์ 20 ล้านโดส วัคซีนลอตแรกถึงไทยกันยายนนี้
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติวงเงินมัดจำวัคซีนไฟเซอร์ 20 ล้านโดส โดยต้องมัดจำโดสละ 1 เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งวัคซีนลอตแรกจะเข้ามาในเดือน ก.ย. ขณะเดียวกัน ยังเตรียมจัดซื้ออีก 13 ล้านโดส โดยในสิ้นปีนี้ จะมีวัคซีนไฟเฟอร์รวม 33 ล้านโดส ซึ่งจะครอบคลุมเด็กอายุ 12 ปีให้รับการฉีดวัคซีนวันนี้ด้วย
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี กำชับวัคซีนที่จะมาเข้ามาในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะหมดอายุ สิ้นเดือนสิงหาคม ต้องฉีดให้เร็ว โดยทางสาธารณสุขยืนยันบริหารจัดการได้
ทั้งนี้ ครม.ยังเห็นชอบในหลักการให้อธิบดีกรมควบคุมโรค เป็นผู้มีอำนาจในการลงนาม การรับบริจาคยาเพื่อใช้รักษาผู้ป่วยโควิดอาการหนัก จากเยอรมันจำนวน 2,000 ชุด โดยยาชนิดนี้ได้ขึ้นทะเบียนกับ อย.แล้ว
ขณะเดียวกัน ได้เห็นชอบการลงนามในร่างรับมอบวัคซีนแอสตราเซเนกา จาก รัฐบาลภูฏานและรัฐบาลไทย โดยให้อธิบดีกรมควบคุมโรคเป็นผู้มีอำนาจในการลงนามในสัญญาดังกล่าว
ครม. อนุมัติกรอบวงเงินกว่า 9 พันล้านบาท ชำระค่าวัคซีนป้องกันโควิด-19 พร้อมรับทราบจัดซื้อไฟเซอร์เพิ่มอีก 10 ล้านโดส คาดส่งมอบได้ในไตรมาส4
วันนี้ (17 ส.ค.) นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการจัดหาวัคซีนป้องกัน โควิด-19 สำหรับให้ประชาชนเพิ่มเติมอีกกว่า 20 ล้านโดส ซึ่งเป็นส่วนที่เคยลงนามไปแล้ว วันนี้มีการอนุมัติในกรอบวงเงินที่จะต้องนำไปชำระจำนวน 9,372 ล้านบาท แบ่งเป็นการจัดหาวัคซีนประมาณ 8,439 ล้านบาท และค่าบริการจัดการประมาณ 933 ล้านบาท ทั้งนี้ได้รับทราบมาว่าจะส่งมอบวัคซีนได้ในไตรมาสที่4 ประมาณปลายเดือนกันยายนถึงต้นเดือนตุลาคม 2564
นายอนุชา กล่าวว่า ครม. ได้รับทราบการจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์เพิ่มเติมอีก 10 ล้านโดส และมอบหมายให้กรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ลงนามกับทางตัวแทนบริษัทไฟเซอร์ จะทำให้การจัดหาวัคซีนแบบชนิด mRNA ยี่ห้อไฟเซอร์เพิ่มเติมจาก 20 ล้านโดส ซึ่งจะส่งมอบได้ในไตรมาสที่สี่ของปี 2564 ดังนั้นวัคซีนไฟเซอร์จะเข้ามาในประเทศไทยรวมประมาณ 30 ล้านโดส ในไตรมาสสุดท้ายของเราตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป.
รัฐบาล ยกงานวิจัยเป็นเหตุสั่งซื้อวัคซีนซิโนแวคเพิ่ม ระหว่างรอวัคซีนmRNA ในช่วงปลายก.ย.-ต้น ต.ค. ชี้ฉีดไขว้ได้ผลป้องกันโควิดสายพันธุ์เดลตาได้
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ตอบคำถามสื่อมวลชน แทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถึงเหตุผลของรัฐบาล ในการสั่งซื้อวัคซีน ซิโนแวค เพิ่ม ทั้งที่ทราบอยู่แล้วว่าประสิทธิภาพไม่เพียงพอ ว่า มีเหตุผลทางด้านการวิจัย การเก็บข้อมูลมารองรับเนื่องจากตั้งแต่ด้านองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้มีการอนุมัติให้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบบไขว้ชนิด ทางประเทศไทยจึงได้เริ่มมีการฉีดวัคซีนแบบไขว้ และได้มีการเก็บข้อมูล พบว่า ผู้ที่ฉีดวัคซีนซิโนแวค เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 มีภูมิต่ำกว่า การฉีดวัคซีน Astrazeneca เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 และที่สำคัญผล การเก็บข้อมูล พบว่าผู้ที่ได้รับการฉีด วัคซีนซิโนแวค เข็มที่ 1 และไขว้ด้วยวัคซีน Astrazeneca ในเข็มที่ 2 จะทำให้ภูมิ ขึ้นมาสูงกว่า การฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม ถึง 4 เท่า สามารถป้องกันเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า ได้ด้วย
ดังนั้น จึงเป็นเหตุผลส่วนหนึ่ง ที่ประเทศไทยจะเริ่มฉีดวัคซีนในลักษณะนี้ ในผู้ที่ยังไม่เคยได้รับการฉีดวัคซีน ระหว่างรอวัคซีนmRNA ที่จะมาในช่วงปลายเดือน ก.ย. หรือ ต้น ต.ค.
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news