Home
|
ข่าว

กต.หารือสธ.กระชับความร่วมมือสู้โควิด

Featured Image
กระทรวงการต่างประเทศ-กระทรวงสาธารณสุขกระชับความร่วมมือร่วมสู้โควิดเพื่อทุกคนในประเทศไทย

นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยผลการหารือระหว่างนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากทั้งสองหน่วยงานเข้าร่วมด้วย อาทิ กรมการกงสุล กรมควบคุมโรค สถาบันวัคซีนแห่งชาติ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการจัดหาวัคซีนโควิด-19 โดยทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันจัดหาวัคซีนโควิด-19 จากแหล่งต่าง ๆ เพื่อให้พอต่อความต้องการในปัจจุบันและอนาคตด้วย โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่า สามารถจัดหาวัคซีนได้แล้ว 100 ล้านโดสในปีนี้

ขณะเดียวกัน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้ข้อสังเกตว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปัจจุบันส่งผลอาจกระทบต่อไทยบ้าง แต่เชื่อมั่นว่า ด้วยพื้นฐานทางด้านสาธารณสุขที่แข็งแกร่งของไทย เราจะสามารถฟื้นฟูภาพลักษณ์ที่ดีในด้านดังกล่าวให้กลับคืนมาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากสถาบันวิจัยของไทยประสบความสำเร็จในการวิจัยและพัฒนาวัคซีน mRNA เป็นชาติแรกในอาเซียนและในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา จึงขอสนับสนุนให้กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญและผลักดันเรื่องนี้อย่างจริงจัง

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่าย ยังได้หารือเรื่องการฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กับพี่น้องชาวไทยและชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทยเพื่อให้มีการกระจายวัคซีนอย่างทั่วถึง เท่าเทียม และครอบคลุมทุกกลุ่ม ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่กำหนดให้วัคซีนเป็นสินค้าสาธารณะของโลก (Global Public Goods) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขยืนยันการจัดให้คนต่างชาติในไทยเข้าถึงวัคซีนผ่านการลงทะเบียน Expatvac จัดการกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงแรงงานต่างชาติที่กระทรวงสาธารณสุขจัดให้ผ่านนายจ้างด้วย

ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันในการเตรียมการล่วงหน้ากระบวนการผลิต “วัคซีนไทย” รวมถึงกระบวนการสั่งจอง การบริหารจัดการ ตลอดจนแหล่งเงินทุนระหว่างประเทศและภูมิภาค ซึ่งหลายสถาบันการเงินพร้อมให้การสนับสนุน

การหารือระหว่างรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกับรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในครั้งนี้ นับเป็นการหารือระหว่างผู้บริหารระดับสูงของทั้งสองกระทรวงเป็นประโยชน์ต่อการบูรณาการการทำงานระหว่างสองหน่วยงาน เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งในปัจจุบันและอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube