พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยหลังประชุมคณะกรรมการจิตอาสาพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อความสุขของประชาชน ครั้งที่ 1 / 2563 ว่าเป็นการบูรณาการร่วมกันกับศูนย์อำนวยการใหญ่จิตสาอาสาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่เราต้องเสริมการทำงานที่ทรงพระราชทานให้ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ ซึ่งปัจจุบันเรามีจิตอาสาอยู่กว่า 6 ล้าน 7 แสนคน ซึ่งพระองค์พระราชทานแนวทางมา ก็เป็นสิ่งที่ดียิ่งแล้ว แต่ในส่วนของรัฐบาลจะได้ประสานช่วยกันทำให้เร็วขึ้น
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยด้วยว่า นับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณ และพระองค์ท่านมิได้ ทางยุ่งเกี่ยวกับการบริหารราชหารแผ่นดิน เพียงแต่ทรงตรัสว่าถ้ามีสิ่งใดที่พระองค์ท่านช่วยได้ ก็จะช่วยว่าเป็นการบูรณาการร่วมกันกับศูนย์อำนวยการใหญ่จิตสาอาสา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่เราต้องเสริมการทำงานที่ทรงพระราชทานให้ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ ซึ่งปัจจุบันเรามีจิตอาสาอยู่กว่า 6 ล้าน 7 แสนคน ซึ่งพระองค์พระราชทานแนวทางมา ก็เป็นสิ่งที่ดียิ่งแล้ว แต่ในส่วนของรัฐบาลจะได้ประสานช่วยกันทำให้เร็วขึ้น
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยด้วยว่า นับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณ และพระองค์ท่านมิได้ ทางยุ่งเกี่ยวกับการบริหารราชหารแผ่นดิน เพียงแต่ทรงตรัสว่าถ้ามีสิ่งใดที่พระองค์ท่านช่วยได้ ก็จะช่วย
นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลได้ส่งรายชื่อคณะกรรมการสมานฉันท์ ในสัดส่วนของคณะรัฐมนตรี แก่ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาแล้ว โดยยอมรับว่า มีชื่อ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และ นายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งคิดว่าควรมีคนที่รู้เรื่องความมั่นคงเข้าไปร่วมทำงาน จึงส่ง พล.อ.ชัยชาญ เข้าไปร่วมเป็นคณะกรรมการฯ ไม่ได้ไปสร้างความขัดแย้ง แต่เป็นเข้าไปอธิบายและรับฟังความเห็นซึ่งกันและกัน ทั้งการเมือง หรืออะไรก็แล้วแต่ จึงส่งฝ่ายความมั่นคงเข้าไป
ส่วนคิดว่าจะสำเร็จหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าก็ต้องไปถามผู้ที่เห็นต่างว่าจะมีวิธีการอย่างไร ไม่ให้มีการฝ่าฝืนกฎระเบียบ และกฎหมายรัฐธรรมนูญ จะมาถามผู้ที่ไม่เห็นต่างได้อย่างไร
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่อยากให้ทุกอย่างขัดแย้งกันไปเรื่อยๆ และที่มีการประชุมพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ เมื่อวานนี้ พบว่า ประชุมได้เพียงชั่วโมงเดียวเพราะอีกฝ่ายได้มีการก้าวล่วงในที่ประชุม ซึ่งไม่ดีและไม่เหมาะสม จึงต้องหยุดการประชุมก่อน ทั้งนี้ ต้องดูว่าอะไรควรทำและไม่ควรทำ ต้องนึกถึงหัวอกคนไทยทั้งประเทศก่อน
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรอบเวลาการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ขอให้เป็นไปตามกฎหมายและเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เพราะได้กำหนดเอาไว้แล้ว ยืนยันนายกรัฐมนตรีไม่ได้ขัดข้องและไม่มีเจตนาที่จะดึงรั้งเอาไว้
นายกรัฐมนตรี ยังขอให้สื่อมีความสุขในวันหยุดสุดสัปดาห์ และให้ระวังลมหนาวในช่วงนี้ โดยนายกรัฐมนตรีไม่มีกำหนดการที่จะเดินทางไปไหน
