โฆษกเพื่อไทย อัดคดี “ผกก.โจ้” ฉายภาพตอกย้ำความรุนแรง เจ้าหน้าที่รัฐทำกับประชาชน รัฐล้มเหลวไร้ซึ่งประสิทธิภาพ
นางสาวอรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการจับกุม พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล (ผู้กำกับโจ้) อดีตผู้กำกับ สภ.เมืองนครสวรรค์ ซ้อมทรมานผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนเสียชีวิตนั้น ว่า ถือเป็นการฉายภาพตอกย้ำความรุนแรงที่เจ้าหน้าที่รัฐทำกับประชาชน ทั้งที่ประเทศไทยเป็น 1 ใน 155 ประเทศที่เข้าร่วมให้สัตยาบันต่อ “อนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการทรมานและการกระทำอื่นๆ ที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรี” แล้ว หากแต่ยังเกิดความรุนแรงซ้ำรายวัน ทั้งการสลายการชุมนุมที่ขัดต่อหลักสากลอย่างชัดเจน การซ้อมทรมานหรือการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่รัฐอีกหลายกรณีที่ไม่ปรากฏเป็นข่าว ทั้งหมดคือความล้มเหลวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่เคยประกาศในตอนยึดอำนาจว่าการปฏิรูปตำรวจเป็นภารกิจสำคัญ แต่ถึงตอนนี้ยังนับหนึ่งไม่ถึงร้อย ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดำเนินการหลายชุด
พล.อ.ประยุทธ์ ที่กุมอำนาจทุกอย่าง เป็นประธานคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (กตช.) ประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ซึ่งดูแลกำกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) แต่ไร้ซึ่งประสิทธิภาพ ผู้นำแบบนี้เสมือนยิ่งส่งเสริมให้ข้าราชการยิ่งกล้ากระทำความผิดบ่อยครั้งจนเกิดการทุจริตคอร์รัปชั่น วิ่งเต้นคดีในหมู่ข้าราชการ
เมื่อเกิดกรณีผู้กำกับโจ้ ยิ่งทำให้นึกถึงคำพูดที่ว่านิ้วไหนร้ายตัดทิ้ง คงไม่พอ แม้คนในรัฐบาลได้ออกมายืนยันในวันนี้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะเร่งปฏิรูปองค์กรตำรวจด้วยการออก 7 มาตรการเร่งด่วน แต่สิ่งที่ต้องทำคือการยุติอำนาจฉ้อฉลในระบบราชการทั้งหมดที่กำลังเบ่งบาน ต้องรื้อถอนวัฒนธรรมองค์กร ให้ปลอดการใช้เส้นสาย ซื้อขายตำแหน่ง ยุติการซ้อมทรมานการรีดไถ เจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยสามารถปฏิเสธคำสั่งที่มิชอบได้
ทุกครั้งเมื่อมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ จะขึงขังสั่งการเพราะกระแสสังคมกดดัน อย่างกรณีกราดยิงที่โคราช เมื่อต้นปี 2563 ทั้งขบวนการมีใครต้องรับผิดถูกลงโทษหรือยัง หลายเรื่องหายเข้าไปในกลีบเมฆ เละทั้งระบบเพราะผู้นำไร้ประสิทธิภาพและไม่มีศักยภาพควบคุมดูแลได้ แล้วประชาชนจะหวังพึ่งอะไรได้จากข้าราชการและรัฐบาลแบบนี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news