ประธานวิปรัฐ ยืนยัน รัฐบาลเป็นหนึ่งเดียวกัน รัฐมนตรี พร้อมแจงซักฟอก แนวทางโหวต รอฟังข้อมูลก่อน หวังไม่มีคนสวนมติอีก
นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ย้ำถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคล ว่า จะมีขึ้น ระหว่างวันที่ 31 ส.ค.-3 ก.ย. และจะลงมติในวันที่ 4 ก.ย. ประมาณ 10.00 น. โดยฝ่ายค้านได้รับเวลา 40 ชั่วโมง มีการกำหนดไว้ว่า ฝ่ายค้านจะต้องใช้เวลาในการอภิปรายในแต่ละวันอย่างน้อยวันละ 10 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ เพราะในครั้งที่ผ่านมา มีปัญหาในเรื่องของการส่งรายชื่อผู้อภิปรายที่เมื่อถึงเวลาแล้วไม่มีผู้อภิปราย ส่วนสมาชิกในส่วนของรัฐบาลและคณะรัฐมนตรีนั้นสามารถตอบชี้แจงได้อย่างเต็มที่ โดยในแต่ละวันจะใช้เวลาตั้งแต่ 09.30 น. จนถึงเวลาประมาณ 00.30 น.
ทั้งนี้ เบื้องต้นทราบว่า รัฐมนตรีที่มีชื่อถูกอภิปรายทั้งหมด มีความพร้อมในการชี้แจงได้ทุกเรื่อง เพราะทางคณะรัฐมนตรี แจ้งว่า พร้อมตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค. เป็นต้นไป ซึ่งการตอบชี้แจงก็อยากให้ตอบโดยกระจ่างแจ้งในรอบเดียว แต่หากยังไม่ จบก็สามารถขึ้นชี้แจงได้อีกรอบ ส่วนการติวเข้ม ส.ส.ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐนั้น เนื่องจากครั้งนี้ ติดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงไม่สามารถดำเนินการได้เหมือนครั้งที่ผ่านมา ที่มีการเชิญรัฐมนตรีมาให้ข้อมูล แต่ก็ได้สอบถาม เพราะมีความเป็นห่วง ซึ่งทางรัฐมนตรีทุกคนก็ยืนยันว่า พร้อมที่จะตอบชี้แจง
สำหรับการลงมติในวันที่ 4 ก.ย. นั้น นายวิรัช ยืนยันว่า รัฐบาลเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ส่วนจะลงมติไปในทิศทางใด ต้องรอดูการอภิปรายนำเสนอของฝ่ายค้าน และการชี้แจงของผู้ที่ถูกอภิปราย ทั้งนี้ คาดว่า ก่อนวันที่จะลงมติวิปของรัฐบาลจะมีการประชุมร่วมกันอีกครั้ง ส่วนจะมีการโหวตสวนมติเหมือนในอดีตหรือไม่นั้น เป็นสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น และไม่รู้ว่าหากมีจะโหวตสวนไปทิศทางไหน แต่ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด หากจะมีก็ให้น้อยที่สุด หรือหากไม่มีเลยก็จะดีที่สุด
อย่างไรก็ตามในวันจันทร์ที่ 30 ส.ค.นี้ ทางวิปรัฐบาล จะมีการหารือถึงภาพรวมของการอภิปรายไม่ไว้วางใจอีกครั้ง
“วิรัช”แจง พ.ร.บ.ตำรวจพิจารณาล่าช้าเพราะโควิด งดประชุม กมธ. หวังปิดสมัยประชุมเร่งให้เร็วที่สุด ไม่ชัดจะแล้วเสร็จตอนไหน
นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส. พลังประชารัฐ ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ตำรวจแห่งชาติ ย้ำถึงสาเหตุที่พิจารณากฎหมายนี้ล่าช้าเนื่องจากอยู่ในช่วงโควิด-19 สภาใหญ่ปิดต้องปิดการประชุม กรรมาธิการก็ต้องงดประชุมไปด้วย ขณะเดียวกัน ก็ติดการพิจารณากฎหมายสำคัญหลายฉบับทั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และสัปดาห์หน้าก็จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จากนั้น ต่อด้วยการลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระสาม ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าในช่วงปิดสมัยประชุมสภา จะมีการพิจารณาได้สัปดาห์ละหลายวัน และพยามจะเร่งให้เร็วที่สุด แต่ไม่สามารถตอบได้ว่า จะแล้วเสร็จเมื่อใดเนื่องจากสังคมจับตา และคาดหวังว่ากฎหมายฉบับนี้จะเป็นส่วนในการปฏิรูปสถาบันตำรวจ
อย่างไรก็ตาม หลังจากการรัฐประหาร ร่างกฎหมายนี้ผ่านการพิจารณามาหลายคณะแล้ว ทั้งพลเอกบุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ และนายมีชัย ฤชุพันธุ์ พิจารณาคณะละ 2 ปี และเมื่อมาถึงสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็มอบให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกันร่างเสนอต่อสภาดังนั้นเวลาการพิจารณาต้องมีการหยิบยกร่างของพลเอกบุญสร้าง ร่างของนายมีชัย และร่างปัจจุบันมาพิจารณาประกอบกันไป ซึ่งหลายมาตรายังคงสามารถใช้ของเดิมได้แต่ในส่วนที่มีการแก้ไข
ขณะเดียวกัน กรรมาธิการได้พิจารณาไปแล้วเพียง 14 มาตรา จากทั้งหมด 172 กว่ามาตรา ซึ่งเป็นเรื่องของโครงสร้างและจะทำอย่างไรให้ตำรวจเป็นของประชาชนมากที่สุด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news