นายกฯโต้ระบบสาธารณสุขไทยล้มเหลว ปัดค้าความตาย ไร้ล็อกสเปกATK
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ลุกขึ้นชี้แจงภายหลัง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส. พรรคเพื่อไทย ที่ได้มีการอภิปรายโจมตีระบบสาธารณสุขไทยล้มเหลว แสวงหาผลประโยชน์บนค้าความตายของเพื่อนมนุษย์ พร้อมมีการโชว์รูปนายกรัฐมนตรี ที่ข้อความว่า “หนี้มั่นคง จนมั่งคั่ง ตายยั่งยืน” ว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด และรวบใช้อำนาจการบริหารเพียงคนเดียวนั้น หากเป็นนายกรัฐมนตรีจะรู้ว่า จะต้องสั่งการอย่างไร ที่จะต้องมีการเห็นชอบตามมติข้อเสนอ จึงสามารถสั่งการได้ ไม่เคยแอบเรียกใครไปสั่งเฉพาะเรื่อง โดยยืนยันว่าเป็นการสั่งการโดยเปิดเผยโดยมติเห็นชอบร่วมกัน อย่าหาว่าตนเองสั่งการ โดยเผด็จการด้วยนิสัยตนเองไม่ใช่คนแบบนั้น
ทั้งนี้ ในการบริหารสถานการณ์โควิด-19 เป็นลักษณะการเตรียมแผนเผชิญเหตุ รวมทั้ง ทรัพยากรด้านสาธารณสุข เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้มากยิ่งขึ้นให้เทียบเคียงกับต่างประเทศขณะที่การกำหนดมาตรการควบคุมโรค จะต้องสอดคล้องกับสถานการณ์ซึ่งสำคัญที่สุดคือจะต้องมีการจัดเตรียมแผนเผชิญเหตุไว้ล่วงหน้า ถึงแม้โรคโควิดจะเป็นโรคอุบัติ?ใหม่ แต่รัฐบาลได้ใช้แนวทางกระบวนการสากลในการ ดูแลรักษา โดยเริ่มตั้งแต่มีการระบาดที่อู่ฮั่น ปี 2562 ซึ่งถือว่ามาตรการสาธารณสุขของไทยยอดเยี่ยมที่สุดในโลก ที่ต้องน่าภูมิใจ แต่ไม่ใช่สถานการณ์เพื่อรองรับโรคโควิด-19 ที่มีคนป่วยจำนวนหลายล้านคน แต่เราได้มีการพัฒนาระบบสาธารณสุขของไทยให้ดีขึ้น แน่นอนว่าจะต้องมีปัญหาเกิดขึ้นอยู่บ้าง แต่ยืนยันว่าไม่ใช่ระบบสาธารณสุขเราล้มเหลว เพราะบุคลากรทางการแพทย์เป็นผู้ให้ข้อมูลมาทั้งหมด และตนเองได้ฟัง วิเคราะห์ และสอบถามผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ในการล็อกดาวน์ แต่ละช่วงมีความแตกต่างกัน โดยในช่วงแรก ก็ทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดลดลงในจำนวนที่น่าพอใจและไม่อันตราย ตาหลังจากนั้นทุกคนก็ทราบดีว่ามีสถานการณ์อะไรเกิดขึ้นและรัฐบาลก็ได้มีการแก้ไข ซึ่งไม่มีใครต้องการให้เกิดหรือละเว้นในสิ่งที่ควรกำกับดูแล โดยมีแผน มาตรการด้านสาธารณสุขในภาพรวมของประเทศ
ทางการป้องกันการกักกันโรค การเฝ้าระวัง ค้นหา ผู้ติดเชื้อ ติดตาม สอบสวนควบคุมโรค ดูแลรักษาผู้ป่วยติดเชื้อในโรงพยาบาลพร้อมยังมีมาตรการแนะนำให้ระดับจังหวัด
ขณะที่ชุดตรวจหาเชื้อแบบเร่งด่วน ATK นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นอกจากรัฐบาลนำเข้ามาแล้ว ATK ยังเป็นสินค้าในเชิงพาณิชย์ ที่ได้รับการอนุญาต?นำเข้ามาจำหน่าย ตามร้านขายยาและเวชภัณฑ์ ซึ่งมีราคาแตกต่างกันเพราะมียี่ห้อแตกต่างกัน ก็แล้วแต่ประชาชนจะเลือกใช้ แต่ในส่วนของรัฐบาลก็จำเป็นจะต้องจัดหา 8.5 ล้านชิ้น เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ที่มีการแพร่ระบาดมาก จนไม่สามารถทำการตรวจเชื้อแบบละเอียด RT-PCR ได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ในการประชุม ศบค. ไม่เคยสั่งการให้ซื้อ ATK ที่ผ่านมาตรฐาน WHO และก็ได้มีการถอดเทปการประชุม ตนเองก็ไม่ได้มีการสั่งการจริงๆ ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องไปพิสูจน์กันอีกครั้ง ว่านายกรัฐมนตรี พูดจริงหรือไม่จริง แต่ยอมรับว่า การบันทึกการประชุม ก็มีปัญหาอยู่เหมือนกัน แล้วตอนที่เอาผลจากที่ประชุม ศบค.เข้า ครม. เพื่อทราบก็ยังไม่ได้มีการรับรองรายงานการประชุม เพิ่งจำได้ว่าตนเองไม่ได้พูด และได้สอบถามข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขและแพทย์ ก็ไม่มี ATK ชนิดใดที่ทาง WHO รับรอง ให้ใช้สำหรับประชาชน มีเพียงใช้เฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ ยืนยันว่า ไม่ได้ต้องการเฉพาะเจาะจงใคร ส่วนที่มีการกล่าวอ้างก็ต้องว่ากันด้วยหลักฐาน คิดว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข สามารถ?ชี้แจงได้อยู่แล้ว
นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันว่า ไม่ได้มีการปกปิดตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพราะจะต้องมีการรายงานไปยังองค์กรระหว่างประเทศด้วยที่ต้องมีการประเมินทุกประเทศในโลก ไม่อยากพูดให้หลายคนท้อแท้ ต้องพยายามทำให้ดีที่สุดซึ่งเสียใจ ที่มีการสูญเสีย มีการบาดเจ็บ ซึ่งไม่มีใครอยากทำให้เกิดขึ้น ซึ่งตนไม่อาจที่จะไปค้าความตายได้ ดังนั้นขออย่าใช้คำพูดเวอร์เกินไป ใครเสียชีวิตก็ไม่มีความสุขทั้งนั้น ตนก็หัวอกของครอบครัว หัวอกของพ่อแม่ มีพ่อ มีแม่ มีปู่ มีย่า มีตา มียาย ซึ่งตนเองเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องเสียใจมากกว่าอยู่แล้ว เพราะต้องแบกรับชีวิตของทุกคนไว้ด้วย ไม่ทำอะไรให้ต้องเกิดปัญหาอยู่แล้ว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news