Home
|
ข่าว

นายกฯแจงอย่าดิสเครดิสอย่างเดียว-ลุยแก้เศรษฐกิจ

Featured Image
นายกรัฐมนตรี แจงซักฟอก ขออย่าดิสเครดิสเพียงอย่างเดียว ลุยแก้เศรษฐกิจ ท่องเที่ยว อนาถใจสื่อบิดเบือน ยันรักษาสมดุลมหาอำนาจ ยึดศักดิ์ศรีประเทศ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลุกขึ้นชี้แจงการอภิปรายวันที่สอง หลังถูกโจมตีจากฝ่ายค้านต่อเนื่องในหลายประเด็น ว่า ได้นั่งฟังตั้งแต่เช้าแล้วก็เห็นหลายคนอภิปรายซึ่งก็ไม่มีใครพูดดีให้ตนอยู่แล้ว นี่คือหลักการสำคัญ ค้านก็ต้องค้าน ทำลายก็ต้องทำลาย ซึ่งคิดว่าประเทศชาติอยู่เหนือนั้น และยืนยันว่า ได้ทำเพื่อชาติมาโดยตลอด อาจจะมีอะไรที่ไม่สำเร็จบ้าง แต่ส่วนอะไรที่สำเร็จก็ไม่เคยมอง และไม่เคยนำมาเปรียบเทียบกับรัฐบาลก่อนหน้านั้น จึงขอให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาลด้วย โดยเฉพาะเรื่องไร้วิสัยทัศน์ไม่เคยมองโลกภายนอก อันนี้ถือว่าเป็นการดิสเครดิตอย่างเดียว ก็สุดแต่ประชาชนจะเชื่อมั่น

ในส่วนของการท่องเที่ยวนั้นได้มีการคิดนโยบาย การท่องเที่ยวคุณภาพมากกว่าปริมาณ โดยได้มีมาตรการต่างๆ ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวง การท่องเที่ยวและกีฬาจะมีการชี้แจงในส่วนของการเปิดประเทศภายใน 120 วัน ซึ่งไม่ได้ต้องการให้คนขาดความเชื่อมั่น ได้เริ่มดำเนินการเปิดประเทศไปแล้วในส่วนของภูเก็ต sandbox และจะมีการขยายไปยังจังหวัดต่างๆโดยรอบซึ่งทุกคนในพื้นที่ก็มีความพึงพอใจ ทุกอย่างจะต้องเริ่มเดินหน้าในโลกวิถีใหม่ รวมทั้งการเตรียมความพร้อมการเจรจาการท่องเที่ยวกับต่างประเทศ และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง แก้กฎหมายที่ยังไม่เรียบร้อยไม่พร้อมดำเนินการซึ่งอะไรที่ปรับได้ก็ต้องปรับ

ขณะที่เรื่องของ GDP นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ใช้ช่วงจังหวะสถานการณ์ covid-19 ซึ่งไม่มีประเทศไหนที่ GDP สูง จนเปรียบเทียบได้ว่าประเทศเราไม่มีอะไรดีเลย และขออย่าลืมว่ารัฐบาลดูแลประชาชนไปแล้วเท่าไหร่ ลดดอกเบี้ย ขยายเวลาชำระหนี้ และ มีมาตรการต่างๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์ โดยขอให้ไปถามประชาชน 30-40 ล้านคนว่าได้รับการช่วยเหลือหรือไม่ ซึ่งทราบดีอยู่แล้วหลักการจัดสรรงบประมาณ เป็นอย่างไรหากเงินพอก็ทำได้ทั้งหมด แต่ขอให้ทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย

 

นายกฯเดือดฉะ ส.ส.อย่ายุม็อบทำให้เกิดการแตกแยก ยันยึดกฎหมาย ขอประชาชนเข้าใจ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงเรื่องแผนการเปิดประเทศ ว่า เคยชี้แจงไปแล้ว หากสามารถทำได้ในช่วงเดือนตุลาคมก็จะทำ แต่หากไม่ได้ ก็ต้องเปิดเป็นเซ็นเตอร์ไปก่อน ซึ่งถึงแม้เราจะเปิดการท่องเที่ยวเท่าไหร่ก็ตาม หากตราบใดที่ยังมีการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 อยู่ในโลกใบนี้ แน่นอนว่าการจะเข้ามาก็ต้องน้อยลง แต่ประเทศไทยยังถือเป็นเป้าหมายสำคัญที่ต้องการจะมา ถ้าสามารถทำได้จากประเทศต้นทางและปลายทาง ที่ตนเองได้พยายามเจรจากับทุกประเทศซึ่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์โควิด-19 ดังนั้นทุกคนจะต้องช่วยกัน ในฐานะที่เป็น ส.ส. อย่าทำให้เกิดการแตกแยกเป็น 2 ฝ่าย ยกตัวอย่าง การชุมนุม ที่เห็นว่ามีคนพูดว่าถูกต้องตามกฎหมาย ถ้าหากทำถูกต้อง ใครจะทำอะไร ได้ และเห็นว่าไม่สมควรที่เห็น ส.ส.ไปอยู่เบื้องหลัง ขออย่าลืมว่ามีกฎหมาย นายกรัฐมนตรี ก็กลัวกฎหมาย กลัวการทุจริตเพราะมีแบบอย่างมาแล้ว ถูกลงโทษติดคุก หนีคดี ซึ่งเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม

นายกฯ กล่าวต่ออีกว่า ประเทศไทย ไม่ได้เป็นเมืองขึ้นของใคร ประชาชนไม่ต้องขึ้นกับใคร เพราะมีระบอบการปกครอง แบบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข แต่ก็มีหลายคน บ่อนทำลาย ในความเข้มแข็งลักษณะนี้ทุกอย่างทุกประการ และขอให้เถียงมาว่าไม่มี จึงขอให้ประชาชนที่ฟังอยู่ทางบ้านได้เข้าใจว่าการทำงานทุกอย่าง ของรัฐบาล ต้องแก้ปัญหาเดิมๆ ที่ หมักหมมมายาวนาน

 

นายกฯขอหยุดด้อยค่าวัคซีน ยืนยันปีนี้เราจะได้รับวัคซีนครบ ไม่อยากให้วัคซีน เป็นข้อขัดแย้งกันทางการเมืองอย่าเอาโซเชียลมาสู้กัน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ขออย่าฉวยโอกาสสถานการณ์วิกฤต เรื่องของกระบวนการประชาธิปไตย ก็ว่ากันไปส่วนของการเคลื่อนย้ายคนระหว่างประเทศ ในขณะนี้ยังมีปัญหาอยู่ เรามีกติกามากมาย ประเทศไทยมีมาตรการรองรับในเรื่องนี้อยู่ ไม่อยากให้มีการพูดให้ประชาชนเกิดความสับสนอลหม่าน การเมือง คือการเมือง การฟื้นตัวอาจจะช้าลงเพราะประเทศไทย มีผลกระทบ เกี่ยวกับการท่องเที่ยว จึงถามว่าประเทศอื่น มีโรคโควิด หรือไม่ มีการบาดเจ็บล้มตายมากกว่าเราหรือไม่ ซึ่งในส่วนของประเทศลาว เสียใจและขอโทษ ที่ทำอะไรให้ไม่พอใจ ตนเองลูกผู้ชายพอ ไม่ใช้วิธี แยบยล บ่อนทำลายกัน เคารพนับถือหลายคนเป็นคนดี หลายคนเป็นคนรักประเทศชาติ แต่บางคนอาจจะรักตัวเองมากกว่า ให้นึกถึงประเทศของเรา แต่หากคิดว่าจะจ้องทำลายกันทุกวันก็เป็นเรื่องของท่านอะไรที่รัฐบาลก่อนทำไม่ดีก็แก้ไข ส่วนอะไรที่ดีก็ทำต่อ และทำให้ดีกว่าเดิม ฝากให้ทุกคนช่วยกันคิดโดยเฉพาะ ส.ส. ที่ตั้งใจดี ตั้งใจทำให้ประชาชน ซึ่งแน่ใจว่าภายใน 4-5 ปี ประเทศไทย ได้เห็นหน้าเห็นหลังแน่นอน

พร้อมกันนี้ ยังกล่าวถึงเรื่องสุขภาพ และวัคซีน ได้มีการชี้แจงไปแล้ว พร้อมที่จะฉีดให้ภายในปีนี้ ส่วนจะช้าหรือเร็ว ก็มีปัญหาอยู่บ้าง ยืนยันปีนี้เราจะได้รับวัคซีนครบที่มีปัญหามา ซึ่งต้องมองว่าโลกเขามองกันอย่างไร ไม่อยากให้สินค้าวัคซีน เป็นข้อขัดแย้งกันทางการเมือง ถามว่าพูดไปเรื่อยๆ ด้อยค่าไปเรื่อยๆ วันหน้าจะได้วัคซีนหรือไม่ทุกคนที่ฉีดไปก็ปลอดภัย ส่วนการมีติดเชื้อใหม่ ก็ได้มีการติดตาม ก็ยังไม่มีวัคซีนชนิดใดที่ป้องกันได้ชัดเจน ทุกอย่างต้องดำเนินการตามขั้นตอน ซึ่งมีให้ฉีดก็ด้อยค่าให้ฉีดใหม่ก็หวาดระแวง ขออย่าเอาโซเชียลมาสู้กับนายกรัฐมนตรี แต่ขอให้นำข้อเท็จจริงมาสู้

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube