“ประวิตร” สกัดโคราชท่วม หวั่นซ้ำรอยสั่ง สทนช. ประเมินสถานการณ์ล่วงหน้า เข้มแผนจัดการน้ำลุ่มน้ำมูล
นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) มอบหมายให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานตาม 10 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2564 ในพื้นที่ลุ่มน้ำมูล จ.นครราชสีมา เพื่อเน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฝนช่วงนี้อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการประเมินสถานการณ์ล่วงหน้าที่จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดน้ำท่วมซ้ำเหมือนปีที่ผ่านมา เนื่องจากระยะนี้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีแนวโน้มฝนตกหนักในช่วงปลายเดือนกันยายนต่อเนื่องตุลาคม ที่หน่วยงานในพื้นที่ต้องให้ความสำคัญ ติดตาม และวางแผนการบริหารจัดการน้ำในแหล่งน้ำต่างๆ อย่างใกล้ชิด เครื่องจักรเครื่องมือต้องพร้อมใช้งาน รวมถึงการแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำ เพื่อสร้างการรับรู้เชิงพื้นที่ ตั้งแต่ระดับท้องถิ่น อำเภอ จังหวัด โดยเฉพาะการบูรณาการการบริหารจัดการภัยพิบัติที่ช่วยลดความเสียหายที่เกิดจากน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ จากการติดตามสถานการณ์น้ำในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ณ วันที่ 4 ก.ย. 64 พบว่า อ่างเก็บน้ำลำตะคองมีปริมาณน้ำ 213 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 68 อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิงมีปริมาณน้ำ 100 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 64 อ่างเก็บน้ำมูลบนมีปริมาณน้ำ 99 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 70 และอ่างเก็บน้ำลำแซะมีปริมาณน้ำ 164 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 60 ซึ่งจากการคาดการณ์ในช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายน 64 จะมีอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำเกินเกณฑ์ควบคุม จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ เขื่อนลำพระเพลิง เขื่อนลำตะคอง และเขื่อนมูลบน จ.นครราชสีมา
สำหรับแนวทางการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ จ.นครราชสีมา พบว่า ทางจังหวัดได้มีแผนรับมือรองรับสถานการณ์ โดยตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์กรณีอุทกภัย ซึ่ง กอนช. จะมีการเชื่อมโยงข้อมูลการคาดการณ์แนวโน้มปริมาณฝน น้ำในแหล่งน้ำ ผ่านศูนย์ข้อมูลทรัพยากรน้ำจังหวัดนครราชสีมา เพื่อเป็นชุดข้อมูลให้หน่วยงานในพื้นที่ใช้ในการตัดสินใจในการวางแผนจัดการมวลน้ำก่อนเกิดผลกระทบ
และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตาม 10 มาตรการอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะเขื่อนที่มีแนวโน้มปริมาณน้ำเกินเกณฑ์ควบคุม ขอให้ปรับปรุงเกณฑ์การบริหารจัดการน้ำในเขื่อน เพื่อรองรับฤดูฝนนี้ เพื่อป้องกันผลกระทบน้ำท่วมพื้นที่ท้ายเขื่อน วางแผนนำน้ำไปเก็บกักไว้ในแก้มลิง และลำน้ำธรรมชาติครอบคลุมพื้นที่ 3,000 ไร่ ประกอบกับเสริมศักยภาพของเขื่อนให้สามารถรองรับน้ำในช่วงฤดูฝนนี้ได้ เพื่อสำรองน้ำไว้ใช้ในช่วงต้นฤดูแล้ง ปี 2564/65 ได้ต่อไป ขณะเดียวกัน ได้เน้นย้ำกรมชลประทานบริหารจัดการน้ำในเขื่อนสำคัญในพื้นที่ลุ่มน้ำมูล 2 แห่ง ได้แก่ เขื่อนลำพระเพลิงและเขื่อนลำตะคอง ซึ่งปัจจุบันมีปริมาณน้ำประมาณ 60% ของความจุ และมีแนวโน้มปริมาณน้ำไหลอ่างฯ มากขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้น ต้องมีการประเมินฝนรวมถึงพายุที่อาจจะเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน หากจะมีการพร่องน้ำเพื่อรองรับปริมาณฝนที่อาจจะตกลงมาเพิ่มเติมจะต้องแจ้งให้ทางจังหวัดรับทราบล่วงหน้า และมีแผนการระบายน้ำที่กำหนดช่วงเวลาชัดเจนเพื่อป้องกันผลกระทบพื้นที่ท้ายน้ำ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news