นายกฯ ห่วงใยสุขภาพประชาชนรับมือกับโควิด -19 หน้าฝน แนะสำรองหน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัย และให้ติดตามพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ช่วงนี้เป็นฤดูฝนและมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน เนื่องจากฤดูฝนจะทำให้เกิดอุณหภูมิที่ลดลงอาจทำให้เชื้อโรคและเชื้อไวรัสอยู่ในสภาวะแวดล้อมได้นานขึ้นและอาจทำให้เกิดโรคที่มีอาการใกล้เคียงกับโควิด-19 เช่น ไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดธรรมดา และไข้เลือดออก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ฝากความห่วงใยถึงการปฎิบัติตนของพี่น้องประชาชนเพื่อป้องกันโควิด-19 ในช่วงหน้าฝนนี้ ให้ขอยึดหลักการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 แบบครอบจักรวาล (Universal Prevention for COVID-19) อย่างเคร่งครัด ทั้งการสวมหน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัย อยู่เสมอ ออกจากบ้านเมื่อจำเป็น เว้นระยะห่าง หมั่นล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮลล์ หลีกเลี่ยงการนำมือมาจับหน้า ตา จมูกและปาก รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในสถานที่แออัดและไม่มีอากาศถ่ายเท และในช่วงหน้าฝนนี้ ต้องทำความสะอาดหน้ากากผ้าทุกวันก่อนนำมาใช้ อย่าใช้หน้ากากผ้าและหน้ากากอนามัยที่เปียกและชื้น และควรมีหน้ากากสำรองไว้เพื่อเปลี่ยนอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง
“นายกรัฐมนตรี อยากเห็นประชาชนรักษาสุขภาพที่ดี หมั่นสังเกตอาการตนเอง ทั้งโรคไวรัสโควิด-19 และกลุ่มเสี่ยงโรคทางเดินหายใจ รวมทั้งยังฝากความห่วงใยไปยังพื้นที่จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในขณะนี้ และขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงติดตามการพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิดด้วย หลังจากที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้แจ้งเตือนอิทธิพลจากพายุ “โกนเซิน” (COUSON (2113) จะทำให้ประเทศไทยมีปริมาณฝนมากขึ้นจนถึงสัปดาห์หน้าด้วย”
นอกจากนี้ นายธนกร กล่าวว่า ในเวลา 09.00 น. วันที่ 9 ก.ย. นายกรัฐมนตรี จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ ครั้งที่ 7 (The 7th Greater Mekong Subregion: GMS Summit) ผ่านระบบการประชุมทางไกล ภายใต้หัวข้อ “GMS: พลิกฟื้นความแข็งแกร่งเพื่อเผชิญหน้ากับความท้าทายในทศวรรษใหม่” (GMS: Renewed Strength to Face the Challenges of the New Decade) โดยกัมพูชาร่วมกับธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank: ADB) เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมฯ พร้อมผู้นำประเทศสมาชิกทั้ง 6 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา จีน ลาว เมียนมา ไทย และเวียดนาม รวมทั้งประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย สภาธุรกิจของกลุ่มประเทศ และตัวแทนจากภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง
ในการประชุมครั้งนี้ เป็นโอกาสให้ไทยย้ำบทบาทและความร่วมมือในกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงซึ่งไทยให้การสนับสนุนมาโดยตลอด และไทยจะได้เน้นย้ำศักยภาพทางเศรษฐกิจเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประเทศสมาชิกฯ ตลอดจนนักลงทุนต่างชาติ
ทั้งนี้ ในการประชุมสุดยอดผู้นําแผนงาน GMS ครั้งที่ 7 นี้จะได้มีการรับรองเอกสารผลลัพธ์ 3 ฉบับ ได้แก่ 1.ร่างปฏิญญาร่วมระดับผู้นํา 6 ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่ 7
2.ร่างกรอบยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง พ.ศ. 2573 และ3.ร่างเอกสารแผนการฟื้นฟูและตอบสนองต่อผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พ.ศ. 2564 – 2566
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news