นายกฯ กำชับขับเคลื่อนเศรษฐกิจ-สังคมในแบบวิถีใหม่ เตรียมเปิดอีก 5 จังหวัด 1 ต.ค.นี้ ย้ำดูแลนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่นตามมาตรการสาธารณสุข
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแนวทางการขับเคลื่อนแผนเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่ารัฐบาลเดินหน้าตามแผนเปิดพื้นที่รับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่วางไว้เป็นระยะ หลังจากนำร่องระยะที่ 1 ในรูปแบบแซนด์บ็อกซ์ได้แก่ ภูเก็ต พังงา กระบี่ และสุราษฎร์ธานี ไปแล้ว ซึ่ง 2 เดือนที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จในระดับที่ดี เป็นที่น่าพอใจ รายจ่ายต่อทริปของนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 6-7 หมื่นบาทรายได้สะสม 1,634 ล้านบาท ทำให้ประชาชนในพื้นที่สามารถกลับมาฟื้นตัวสร้างรายได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งในเดือนตุลาคมนี้ ภายใต้การป้องกันตนเองแบบ Universal Prevention พร้อมกับเข้าสู่แผนการเปิดพื้นที่ระยะที่2 อีก 5จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และเชียงใหม่ ซึ่งแต่ละจังหวัดได้เตรียมความพร้อมเร่งฉีดวัคซีนให้คนพื้นที่และจัดเคมเปญต่างๆ รองรับนักท่องเที่ยว และในช่วงกลางเดือนตุลาคม เข้าสู่แผนระยะที่ 3 จะเปิดต่ออีก21จังหวัดครอบคลุมทั้งประเทศ (ภาคเหนือ ลำพูน แพร่ น่าน แม่ฮ่องสอนเชียงราย สุโขทัย ภาคอีสาน อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ อุบลราชธานี ภาคตะวันตก กาญจนบุรี ราชบุรี ภาคตะวันออก ระยอง จันทบุรี ตราด ภาคกลาง อยุธยา ภาคใต้ นครศรีธรรมราช ระนอง ตรัง สตูล สงขลา)
นายธนกร กล่าวอีกว่า รัฐบาลยังวางแผนการกระตุ้นให้คนไทยเดินทางเที่ยวในประเทศผ่านโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ระยะที่3 (รัฐสนับสนุนค่าโรงแรม40% ให้คูปองอาหาร600บาทต่อคืน และสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน 40% จำนวน 2 ล้านสิทธิ หรือห้องพัก) รวมทั้งโครงการทัวร์เที่ยวไทย (รัฐสนับสนุนวงเงิน5,000บาท ให้ประชาชนเดินทางเที่ยวผ่านบริษัททัวร์ จำนวน 1 ล้านสิทธิ) โดยคาดว่าจะสามารถเปิดลงทะเบียนภายในกันยายนนี้ เพื่อให้สามารถท่องเที่ยวได้ในช่วงเดือนตุลาคมซึ่งเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของฤดูกาลท่องเที่ยวไทย
นายกฯ ได้กำชับเรื่องมาตรการตรวจโควิด-19 และด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวทุกคน ส่วนปีหน้าเป็นแผนระยะที่4 จะเริ่มเดือนมกราคม 2565ในการเปิดพื้นที่จังหวัดที่ติดชายแดนเพื่อนบ้าน อีก13จังหวัด จับคู่ท่องเที่ยวระหว่างกัน (Travel Bubble) ซึ่งทั้ง4ระยะ จะเปิดรับนักท่องเที่ยว รวม43จังหวัด และได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานทำงานร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมในแบบวิถีใหม่ ที่มีการผ่อนคลายมาตรการ ร่วมเดินหน้าเศรษฐกิจภายใต้กรอบสาธารณสุข เพื่อให้เกิดประโยชน์ทั้งในวันนี้และอนาคต ลดช่องว่าง ลดความเหลื่อมล้ำ ช่วยกันเดินหน้าสู่การเปิดประเทศวิถีใหม่ต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news