นายกรัฐมนตรี รับทำเอง ปรับ “ธรรมนัส-นฤมล” เพื่อประชาชนและการบริหาร งาน ย้ำยังไม่ปรับใหม่ ให้ประชาชนดูเอง 2 คนทำงานยังไง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลสนามสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ระดับสีแดง (ICU) ในโครงการลมหายใจเดียวกัน ของกลุ่ม ปตท. ที่โรงพยาบาลปิยะเวท โดยก่อนชี้แจงประเด็นการเมืองนายกรัฐมนตรีได้ถอนหายใจ พร้อมกล่าวถึงการลาออกของร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่าได้ข่าวว่าลาออกแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ ร.อ.ธรรมนัส ก็เคยพูดอยู่แล้วว่าไม่ต้องเป็นรัฐมนตรีก็ได้ เป็น ส.ส. ก็สามารถช่วยประชาชนได้ จากนี้ไปเป็นเรื่องของพรรคว่าจะทำอย่างไร แต่ยืนยันมีคนทำงานให้อยู่แล้ว ส่วนการปรับ ครม. ขอดูก่อน แต่ตอนนี้ยังไม่ปรับใคร ถึงจะมีคนลาออกก็ยังไม่ปรับเข้า
ส่วนที่ร.อ.ธรรมนัส และนางนฤมล ลาออกหรือถูกปรับออก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เขาลาออกเอง
แต่เมื่อสื่อถามย้ำว่า เนื้อความในราชกิจจานุเบกษา ระบุว่า นายกรัฐมนตรี กราบบังคมทูลว่า สมควรให้รัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะไปจะมาอย่างไรไม่ขอตอบ แต่ตนสั่งของตน ซึ่งการปรับออกไม่ต้องแจ้งใคร เป็นเหตุผลส่วนตน และย้ำอีกว่าเป็นของตน และการทำงานที่ผ่านมาของ 2 รัฐมนตรีช่วย เป็นอย่างไรนั้น ขอให้ประชาชนดูเอาแล้วกัน
สำหรับการปรับ ครม. จะเป็นผลมาจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะโค่นล้มนายกรัฐมนตรี หรือไม่ นั้น นายกรัฐมนตรีได้ย้อนกลับสื่อว่า ทั้งหมดมาจากเธอ (สื่อ) เมื่อถูกถามย้ำว่าจะมีการปรับรัฐมนตรีคนอื่นตามมาหรือไม่ นายกฯ พูดเชิงประชดว่า “ปรับออกแล้วเป็นไง แหม..เอาออกหมดเลยไหม”
ขณะที่เกมการเมืองของ 3 ป. จะเปลี่ยนไปหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่าเกมอะไรนักหนา และปฏิเสธตอบคำถามว่าจะเป็นการผลักมิตรเป็นศัตรูหรือไม่ พร้อมยืนยันสิ่งที่ทำเป็นการทำเพื่อประชาชน เเละการบริหารงาน ไม่เกี่ยวกับอะไรทั้งสิ้น และจะไม่ยืนยันนอนยันอะไรทั้งสิ้น
“วิษณุ” ปัดไม่รู้ “ธรรมนัส”ทำจดหมายลาออกระบุวันที่เท่าไหร่ ยืนยันการปรับเปลี่ยนตัวบุคคลไม่ใช่เรื่องแปลก
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีพระบรมราชโองการ ให้ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี ว่า กรณีดังกล่าวถือเป็นการปลดออกจากตำแหน่ง เนื่องจากในตัวพระบรมราชโองการได้มีการอ้างรัฐธรรมนูญ มาตรา 171 บัญญัติไว้ว่าพระมหากษัตริย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอํานาจในการให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรี ตามที่นายกรัฐมนตรีถวายคำแนะนำ ส่วนวันที่มีผลบังคับจริงคือวันที่ระบุในพระบรมราชโองการ นั่นหมายถึง ตั้งแต่เวลา 01.00 น.ของวันที่ 8 ก.ย.64
อย่างไรก็ตามตนเพิ่งได้ทราบข่าวว่าร.อ.ธรรมนัสแถลงข่าวว่าได้ทำจดหมายลาออก ซึ่งตนไม่รู้ว่าจดหมายฉบับนั้นระบุวันที่เท่าไหร่ แต่สิ่งที่เป็นทางการคือให้ยึดตามพระบรมราชโองการ
ส่วนหลังจากนี้จะต้องแต่งตั้งรัฐมนตรีคนใหม่เข้ามาทำหน้าที่แทนเลยหรือไม่ นายวิษณุ ระบุว่า ไม่จำเป็น เพราะตามรัฐธรรมนูญระบุไว้เพียงแค่ให้มีรัฐมนตรีได้ไม่เกิน 36 คน ดังนั้นจะปล่อยให้ทิ้งว่างก็ได้ เพราะเนื่องจากทั้งสองตำแหน่งนี้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการ ไม่ใช่รัฐมนตรีว่าการ ส่วนงานในหน้าที่ของ 2 รัฐมนตรีก็จะต้องกลับคืนสู่รัฐมนตรีว่าการ เพราะอำนาจหน้าที่ของรัฐมนตรีช่วยก็เป็นไปตามคำสั่งมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อไม่มีรัฐมนตรีช่วย อำนาจเหล่านั้นก็กลับคืนสู่รัฐมนตรีว่าการ
ส่วนปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาลหรือไม่ นายวิษณุ ระบุว่า ไม่มีใครคิด มีแต่สื่อที่คิด ยืนยันเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไรในการปรับเปลี่ยนตัวบุคคล
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news