ศบค. คงมาตรการล็อกดาวน์ ปิดสถานที่เสี่ยงให้ได้ 25% และฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเสี่ยง เน้นย้ำฉีดวัคซีนให้แก่เด็กนักเรียนที่มีอายุระหว่าง 12-17 ปี
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค.แถลงภายหลังการประชุม ว่า ที่ประชุม ศบค.ได้เห็นชอบให้คงมาตรการล็อกดาวน์ Work from home ปิดสถานที่เสี่ยงให้ได้ 25% และฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเสี่ยงได้ตามเป้าหมายในเดือนตุลาคม พร้อมเพิ่มมาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคล หรือ Universals Prevention มาตรการทางสังคมการควบคุมการเดินทางมาตรการองค์กรด้วย Covid free setting และตรวจคัดกรองด้วย ATK
ทั้งนี้ ยังไม่มีการปรับลดพื้นที่การควบคุมโรค โดยยังคงพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด พื้นที่ควบคุมสูงสุด 37 จังหวัด และพื้นที่ควบคุม 11 จังหวัด ตาม ข้อกำหนดฉบับที่ 32 เดิม ถึงวันที่ 30 กันยายน โดยได้ขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือ ในการป้องกันโรค ที่เป็นไปตามความคาดหวังแต่ จะต้องมีการสื่อสารกับประชาชนให้ปฏิบัติตามมาตรการ Universals Prevention ที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง
ส่วนแผนการให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ต้องให้ครอบคลุมประชาชน 70% ของจำนวนประชากร หรือ 50 ล้านคน โดยแผนในเดือนตุลาคม 24 ล้าน โดส แบ่งเป็น ซิโนแวค 6 ล้านโดส แอสตราเซนเนกา 10 ล้านโดส และไฟเซอร์ 8 ล้านโดส ขณะที่เดือนพฤศจิกายน 23 ล้านโดส แบ่งเป็น แอสตร้าเซนเนก้า 13 ล้านโดส และไฟเซอร์ 10 ล้านโดส ส่วนเดือนธันวา?คม 24 ล้านโดส แบ่งเป็น แอสตราเซนเนกา 14 ล้านโดส และไฟเซอร์ 10 ล้านโดส ขณะที่วัคซีนทางเลือก โมเดอรนา จะมีมาในช่วงเดือนธันวาคม 2 ล้านโดส อย่างไรก็ตาม หากรวมวัคซีนทั้งหมด ทั้งที่ได้รับการบริจาค ตั้งแต่ เดือนกุมภาพันธ์-ธันวาคม จะมีวัคซีนทั้งหมด 125.5 ล้านโดส
สำหรับแนวทางในการจัดสรรมีทั้งหมด 5 กลุ่ม ได้แก่
1.ประชาชนทั่วไปที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จำนวน 16.8 ล้านโดส ใช้สูตรวัคซีนซิโนแวค-แอสตราเซนเนกา แอสตราเซนเนกา-แอสตราเซนเนกา และแอสตราเซนเนกา-ไฟเซอร์
2. นักเรียนที่มีอายุระหว่าง 12-17 ปี จำนวน 4.8 ล้านโดส ใช้สูตรวัคซีนไฟเซอร์-ไฟเซอร์
3. แรงงานในระบบประกันสังคม 0.8 ล้านโดส ใช้สูตรวัคซีนซิโนแวค-แอสตราเซนเนกา
4. หน่วยงานอื่นๆ เช่น องค์กร ราชทัณฑ์ จำนวน 1.1 ล้านโดส ใช้สูตรวัคซีนซิโนแวค-แอสตราเซนเนกา
5.ผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม และต้องการ เข็มที่ 3 กระตุ้น จำนวน 0.5 ล้านโดส ใช้สูตรวัคซีนซิโนแวค-ซิโนแวค-แอสตราเซนเนกา
อย่างไรก็ตาม ได้เน้นย้ำการฉีดวัคซีนให้แก่เด็กนักเรียนที่มีอายุระหว่าง 12-17 ปี ต้องฉีดวัคซีน ไฟเซอร์ทั้ง 2 เข็ม เราต้องไม่ปิดบังข่าวผลจากการฉีดวัคซีน ที่มีในเรื่องของกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ต้องมีการชี้แจงให้กับประชาชนโดยเฉพาะผู้ปกครองได้ทราบว่ามีความเสี่ยง ที่ต้องได้รับการยินยอมจากผู้ปกครองก่อนเข้ารับการฉีด ซึ่งขอให้เป็นความสมัครใจไม่ได้เป็นการบังคับ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news