“จุรินทร์” มองปกตินายกฯ ลงพื้นที่มากขึ้น ชี้คนละเรื่องกับเตรียมยุบสภา ยันไม่ขวางพรรคเล็กยื่นตีความแก้ รธน. แต่ ปชป. ไม่ร่วมลงชื่อด้วย หนุนกู้เงินนำมาฟื้นฟูเศรษฐกิจ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัติย์ กล่าวก่อนตรวจราชการจังหวัดพังงา ถึงการปรับตัวลงพื้นที่ ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หลังเกิดความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐซึ่งวิเคราะห์กันว่า จะมีการการยุบสภาตามมา โดยส่วนตัวมองว่า เป็นเรื่องปกติ ซึ่งเมื่อวานนี้ก็เป็นการลงพื้นที่ไปดูปัญหาน้ำท่วม รับฟังปัญหาประชาชนเป็นคนละเรื่องกับการยุบสภา และหากจะยุบสภาจริง ต้องเป็นเงื่อนไขอื่น ไม่ใช่แค่การลงพื้นที่วันสองวันนี้ ขณะเดียวกัน ไม่ขอวิเคราะห์ว่า จะมีการยุบสภาเร็วๆ นี้หรือไม่ ตนตอบไม่ได้ เพราะไม่ใช่นายกรัฐมนตรี แต่ขอย้ำว่า แค่การลงพื้นที่ ไม่สามารถไปการันตีว่า จะมีการยุบสภาเกิดขึ้น
นอกจากนี้ นายจุรินทร์ ยังกล่าวถึงกรณีพรรคเล็กเตรียมหารือกับพรรคภูมิใจไทย เพื่อยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านวาระ 3 ว่าเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ หากเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ แต่พรรคประชาธิปัตย์คงไม่ไปยื่นด้วย ซึ่งหากรวมชื่อครบ ทั้ง ส.ส. และ ส.ว. ก็ยื่นได้ จะได้ไม่คาใจแต่คงไม่สามารถบอกได้ว่าการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความเป็นเรื่องที่ดี ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัย ก็ไม่ขวาง และไม่ไปตำหนิอะไร
นายจุรินทร์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงการลงพื้นที่ออนทัวร์ภาคใต้ ฝั่งอันดามัน ตั้งแต่จังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล เพราะนอกจากการแก้ปัญหาโควิดแล้ว ยังต้องแก้ปัญหาเศรษฐกิจควบคู่ไปด้วย โดยเมื่อวานนี้ มีการเปิดโครงการสำคัญที่เขาหลัก จ.พังงา เริ่มที่โรงแรม 6 แห่ง ร่วมกับสาธารณสุขจังหวัดพังงา เพื่อให้เป็นศูนย์กลางสุขภาพของอันดามัน ซึ่งจะมีส่วนช่วยเพิ่มจุดขายให้อันดามัน และหลังจากนี้ก็จะขยายไปยังพื้นที่อื่นที่มีความพร้อมในอันดามัน เช่น เกาะยาว จ.พังงา เป็นต้น ซึ่งคาดว่า จะมีรายได้เพิ่มขึ้นอีก 1 เท่า กว่า 1 ล้านล้านบาท พร้อมเปิดเผยว่าเริ่มขายแพคเกจไปแล้ว โดยเฉพาะประเทศแถบยุโรป ซึ่งเป็นตลาดสำคัญ ทำรายได้และจะช่วยเพิ่ม GDP ด้านการท่องเที่ยวจำนวนมาก ขณะที่การฉีดวัคซีนที่เขาหลักถือว่า มีความพร้อมและฉีดไปแล้ว กว่า 70%
นอกจากนี้ นายจุรินทร์ ยังกล่าวถึง กรณีที่รัฐบาล เตรียมกู้เงิน 1 ล้านล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาโควิด-19 ว่า ตนยังไม่ทราบรายละเอียด แต่หากมีการกู้เงินอีกก้อนหนึ่งก็สอดคล้อง กับความเห็นของภาคเอกชน ที่จะนำมาฟื้นฟูเศรษฐกิจ แต่ที่สำคัญต้องดูว่า กู้แล้วจะนำไปใช้อย่างไร เพราะต้องจัดลำดับให้ดี เมื่อนำเงินมาลง 1 ล้านล้านบาทจะต่อยอดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ ทั้งภาคผลิตและการส่งออก เพื่อทำให้เม็ดเงินกระจายเป็นทอดๆ อย่างไรบ้าง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news