นายกฯปัดรบ.ปล่อยโควิดระบาดห่วงผู้ว่าสมุทรสาคร
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ว่า สถิติการติดเชื้อยังมีอยู่ บางวันก็เพิ่มขึ้น และลดลง ขึ้นอยู่กับการติดตามตัวเข้าสู่ระบบได้ ส่วนที่มีการปล่อยข่าวว่า รัฐบาลปล่อยเชื้อโควิด เพื่อหวังผลอย่างใดอย่างหนึ่ง คนคิดแบบนี้ใช้ไม่ได้อย่าไปให้ค่ากับข่าวลักษณะนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลมีแต่คิดจะทำอย่างไรให้ประชาชนปลอดภัยไม่ว่าจะเป็นคนที่หวังดีหรือหวังร้ายก็ตาม เพราะรัฐบาลมีหน้าที่ดูแลประชาชนสำคัญที่สุดได้ย้ำเตือนเสมอ ให้ใส่หน้ากากรักษาระยะห่างหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยงต้องเตือนทุกคน นอกจากจะระวังตัวเองแล้วต้องระวังครอบครัวและคนอื่นมนสังคม พร้อมยอมรับ ช่วงปีใหม่ทุกคนอาจลำบาก แต่เมื่อเกิดเชื้อโควิดระบาดรอบใหม่ ไม่ใช่เวลาจะโทษกันไปมา แต่ควรร่วมมือกันทุกภาคส่วน
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ติดเชื้อโควิด-19 ว่า มีโอกาสติดเชื้ออยู่แล้ว เพราะอยู่ในพื้นที่ระบาด เมื่อเป็นแล้วก็ต้องรักษาไม่มีอะไรน่ากังวล เนื่องจากยาต้านโควิดมีเพียงพอ พร้อมระบุ ตนก็มีโอกาสติดเชื้อเช่นกัน ส่วนเรื่องวัคซีนต้องผ่าน อย.ไทยก่อน ที่ต้องคัดกรอง ตรวจสอบให้มีประสิทธิภาพ และหลายอย่างยังไม่ชัดเจน จึงขอให้ติดตามผลข้างเคียงด้วย สำหรับไทยจองวัคซีนไป 20 ล้านโดส ก็สามารถนำมาพัฒนาต่อยอดได้ และต้อง
ใช้เงินในการจอง โดยยันรัฐบาลมีงบประมาณเรื่องวัคซีนอยู่แล้ว
ส่วนการประชุม ครม. ในปีหน้า จะคอนเฟอร์เรนท์หรือไม่นั้น ถึงเวลาจะพิจารณาเอง ทุกอย่างมีบทเรียนมาแล้ว ต้องรอฟังสถานการณ์จากสาธารณสุข โดยขณะนี้ได้ให้ข้าราชการทำงานอยู่บ้าน หรือ WFH
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการตั้งฉายารัฐบาลและรัฐมนตรี ของสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลประจำปี2563 ว่า สื่อตั้งมา สื่อก็สนุกสนานกันไป ในส่วนประชาชนชน ตนเห็นว่าเขากำลังจะตั้งฉายาสื่อกันอยู่ ให้รอฟังเขาก็แล้วกัน ตนก็อยากรู้เหมือนกัน เขาจะตั้งอย่างไรบ้าง อันนี้ก็คือรับฟังสองทาง ผมไม่ไปว่าใครอยู่แล้ว
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตำรวจ ปล่อยให้มีบ่อนแล้วแพร่เชื้อในบ่อนว่า ที่ผ่านมา เรามีปัญหาเรื่องไม่ดีมายาวนาน ถ้าไม่มีเจ้าหน้าที่ทำงาน จะยุ่งมากกว่านี้ ไม่ใช่พอเกิดเรื่องแล้วด่วนสรุป ว่าหน่วยราชการส่วนนั้นใช้ไม่ได้ ยกตัวอย่าง วันหนึ่งมีคดีเท่าใด ถ้าไม่มีตำรวจดูแล สังคมจะปลอดภัยหรือไม่ รับคนจำนวนมาก ย่อมมีทั้งคนดี คนไม่ดี วันนี้ได้สั่งการ
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบให้ได้ข้อเท็จจริงและลงโทษผู้เกี่ยวข้องทุกราย โดยยืนยัน ไม่มีการเอื้อผลประโยชน์ให้ใครเพราะคนในรัฐบาลไม่มีใครกล้าทำแบบนั้น เว้นมีการหลบหนี หลีกเลี่ยง ซึ่งผิดทั้งผู้ให้ ผู้รับ ไม่เช่นนั้น จะกล่าวหาว่า ตนโทษประชาชนอีก พร้อมย้ำสั่งการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปแล้ว โดยชั้นแรก คือ การปล่อยปละละเลย จากนั้น จะตรวจสอบผู้ติดเชื้อว่า ไปเล่นบ่อนที่ไหนบ้าง เช่นเดียวกับขบวนการลักลอบค้าแรงงานเถื่อนด้วย ซึ่งเป็นปัญหาที่อยู่กับประเทศมายาวนาน ถ้าไม่ช่วยกัน เอาแต่ตำหนิ พูดจาให้ร้ายคนที่ทำดี ก็ไม่เกิดประโยชน์ ขอฝากสื่อและคนไทยทั้งประเทศหากรู้เบาะแสไม่ดี สามารถแจ้งมาที่ตนได้โดยตรง
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์สื่อกรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. เตรียมเดินสายพบแกนนำ เพื่อยุติบทบาทองค์กร นปช. มองอย่างไร ว่า ตนไม่เห็นต้องมองอะไร ตนไปเกี่ยวอะไรกับเขา ทั้งนี้ เมื่อถามย้ำว่า เป็นการสร้างความปรองดองหรือประนีประนอมหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถ้าทำได้จริง ก็ดีอยู่แล้วเรื่องแบบนี้ หากทำความดี ก็ให้ทำไป ถ้าทำไม่ดี ก็ค่อยมาบอกตน ถ้าทำดีแล้วสำเร็จ ก็ดีไป เพราะคนที่ได้ ไม่ใช่ตน แต่ประเทศชาติ บ้านเมืองจะได้สงบสุข
นายกรัฐมนตรี กล่าวทิ้งท้ายแถลงข่าวหลังประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ครั้งที่ 3/2563 ว่า ปัญหาประเทศไทย ไม่ได้มีแค่โควิดอย่างเดียว แต่มีเยอะแยะ เราต้องช่วยกันแก้ปัญหาวันนี้ด้วยความเข้าอกเข้าใจ ซึ่งหลายๆอย่างเราก็ให้เวลาในการดำเนินการ ไม่อยากให้เกิดความแตกแยก ความสามัคคี พอกันได้แล้ว ไม่ว่าจะเวทีไหนก็ตาม อย่าเอารัฐบาลไปเป็นคู่ขัดแย้งกับใคร เพราะมีเรื่องที่ผมต้องคิดต้องทำอีกเยอะแยะทุกวัน ซึ่งทำเพื่อพวกเราทุกคน รวมทั้งตนเองด้วย ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ซึ่งทุกคนก็มีหน้าที่ของตัวเอง ทำให้ดีแล้วกัน ขอบคุณนะจ๊ะ พูดนะจ๊ะ ก็มีปัญหา เออ ก็ดีเหมือนกัน