นายกรัฐมนตรี ควง “อนุพงษ์-สุชาติ” เยี่ยมคนเพชรบุรี ขอให้คนไทยรักกัน รักประเทศชาติและสถาบัน ขณะประชาชน แห่ต้อนรับบอกรักลุงตู่ ขอให้กำลังใจ สู้ๆ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ตรวจสถานการณ์น้ำและการระบายน้ำ ที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี (เขื่อนเพชร) รวมถึงแผนแก้ไขน้ำท่วม และแนวทางให้ความช่วยเหลือประชาชน
ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้มีการตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ค้าที่ อ.ท่ายาง โดยได้บอกให้กระจายๆ กันหน่อย เดี๋ยวเขาหาว่า นายกฯ เอาโควิดมาให้ ซึ่งได้มีการถามประชาชนว่ารักลุงตู่หรือไม่ ประชาชนบอกว่า รักลุงตู่ ให้สู้ๆ ทั้งนี้ ประชาชนที่มารอต้อนรับได้มีการขอถ่ายรูปร่วมกับนายกรัฐมนตรีและได้มีการมอบต้นกล้วยสี กล้วยด่าง ที่ขณะนี้เป็นที่นิยมปลูกกัน ให้เป็นที่ระลึกอีกด้วย และยังบอกว่า “รักลุงตู่” ซึ่งนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คนไทยทุกคนต้องรักกัน ให้รักประเทศชาติ รักสถาบัน รักพลเรือน ตำรวจ ทหาร ที่ทำงานให้เรา
ซึ่งระหว่างการลงพื้นที่นายกรัฐมนตรีได้มีการทักทายประชาชนด้วยบรรยากาศอย่างเป็นกันเองพร้อมยังได้มีการ เดินเข้าไปทักทายลุงที่มีการสวม สร้อยพระองค์ใหญ่และถามว่าห้อยพระอะไร พร้อมสอบถามถึงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 อีกด้วย
ระหว่างการลงพื้นที่ อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี นายกรัฐมนตรี และคณะได้เข้าสักการะ เทพเจ้ากวนอู ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ ความยุติธรรม มีมนุษยธรรม และความกล้าหาญ ถือเป็นศูนย์รวมใจและเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวท่ายางให้ความเคารพนับถือ และเชื่อกันว่า การบูชาเทพเจ้ากวนอูจะนำมา ซึ่งความโชคดี มีโชคลาภ และมีความร่ำรวย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้มีการอธิษฐาน ว่า ขอให้ประเทศชาติปลอดภัย ทำงานสำเร็จ เพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชนเกิดความยั่งยืน หากแก้ปัญหาแบบเดิมๆก็ได้แบบเดิมๆ ซึ่งมันยากตรงนี้แหละ แต่ตนจะทำให้ได้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้เป็นการเดินทางมาเพื่อให้กำลังใจ เราต้องร่วมมือไปด้วยกัน โดยยืนยันว่ารัฐบาลและฟังความคิดเห็นต่างๆ อะไรที่ทำได้ก็ทำก่อน ขอให้เชื่อมั่นซึ่งกันและกัน เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งนี่คือเป็นการทำงานของรัฐบาลบางอย่างทำได้ไม่ง่าย เพราะติดให้เรื่องของข้อกฎหมายที่มีเยอะ ซึ่งทุกคนทราบดีอยู่แล้ว เวลาที่ผ่านมาก็ได้รับฟัง ความคิดเห็นจาก ส.ส. และผู้ว่าราชการจังหวัด ก็รับไปดำเนินการต่อไป
นายกฯ ตรวจสถานการณ์การบริหารจัดการน้ำและแผนแก้ไขปัญหาน้ำท่วมลุ่มนาเพชรบุรี ย้ำห่วงใยประชาชน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทุกพื้นที่ กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการน้ำ กำหนดแผนแก้ไขปัญหาครอบคลุมทุกมิติ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตรวจสถานการณ์การบริหารจัดการน้ำและแผนแก้ไขปัญหาน้ำท่วมลุ่มน้ำเพชรบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากอยู่บ่อยครั้ง กรมชลประทาน ได้ดำเนินโครงการบรรเทาอุทกภัยลุ่มน้ำเพชรบุรีตอนล่างอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยควบคุมการระบายน้ำที่เขื่อนเพชรให้ไหลลงสู่แม่น้ำเพชรบุรีในอัตรา 150 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อลดผลกระทบด้านท้ายน้ำ ที่อำเภอเมือง น้ำส่วนที่เหลือจะถูกผันน้ำเข้าระบบส่งน้ำและระบบระบายน้ำของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี ทั้งนี้ กรมชลประทาน ได้ดำเนินโครงการบรรเทาอุทกภัยลุ่มน้ำเพชรบุรีตอนล่างฯ ภายใต้แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) ซึ่งเป็นการบริหารจัดการลุ่มน้ำเพชรบุรีทั้งระบบ ที่ได้กำหนดแนวทางการเร่งระบายน้ำจากแม่น้ำเพชรบุรีออกสู่ทะเลอ่าวไทย ด้วยการปรับปรุงคลองระบายน้ำ คลองส่งน้ำ และการขุดขยายคลอง ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการ หากโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จทั้งหมด จะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการลงพื้นที่แต่ละครั้งว่า เพราะตนเองมีความห่วงใยประชาชน ตั้งใจมารับฟังข้อมูลและรับทราบปัญหาในแต่ละพื้นที่โดยตรง รวมทั้งให้ความสำคัญในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทุกพื้นที่ โดยมอบหมายให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมีแผนแม่บทในการบริหารจัดการน้ำที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ โดยกำหนดแผนแก้ไขปัญหาให้ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งน้ำท่วม น้ำแล้ง น้ำอุปโภคบริโภค น้ำเพื่อการเกษตรและน้ำเพื่อการอุตสาหกรรม เพื่อความมั่นคงทางด้านน้ำในอนาคต โดยให้เป็นไปตามแผนการจัดสรรน้ำที่สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนมีน้ำใช้อย่างเพียงพอและลดผลกระทบในช่วงฤดูน้ำหลากด้วย
นายกรัฐมนตรี กำชับในการเสนอของบประมาณจะต้องเป็นแผนงานที่ทำได้จริง แก้ไขปัญหาได้ตรงจุด เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด พร้อมทั้งวางแผนใช้งบประมาณแบบต่อเนื่องตามแผนยุทธศาสตร์ ยืนยันรัฐบาลให้ความสำคัญในการใช้งบประมาณแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งทุกภาคส่วนทั้งส่วนราชการ ส.ส. และประชาชนต้องร่วมมือกัน เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนในระยะยาว พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้เน้นย้ำให้ส่วนราชการสร้างความรู้ความเข้าใจแก่เกษตรกร ในการปรับเปลี่ยนแนวคิด พฤติกรรมการทำการเกษตรให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และความต้องการของตลาด เพื่อพลิกโฉมประเทศไทยด้านอุตสาหกรรมการเกษตร สร้างรายได้ เพิ่มมูลค่าให้กับภาคการเกษตรมากขึ้น
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news