“อนุดิษฐ์” เชื่อโครงการ GBAD 940 ล้านบาทของ “กองทัพอากาศ” ไม่ชอบมาพากล ส่อผิด พ.ร.บ.ฮั้วประมูลฯ พบกีดกันคู่แข่ง เอื้อประโยชน์บางบริษัท
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติผิดมิชอบ หรือ กมธ.ป.ป.ช. สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึงความคืบหน้าการติดตามตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลโครงการจัดหายุทโธปกรณ์ของกองทัพอากาศ 3 โครงการ มูลค่ารวมเกือบ 3 พันล้านบาท ว่า หลังจากที่ใช้เป็นประเด็นในการอภิปรายไม่ไว้วางใจอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตลอดจนได้ยื่นเรื่องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้พิจารณาส่งคำร้องดังกล่าวไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ให้ไต่สวน และดำเนินการต่อไปแล้วนั้น ก็ยังคงมีผู้หวังดีต่อกองทัพอากาศส่งข้อมูลความผิดปกติมาให้ตน และ กมธ.ป.ป.ช.อย่างต่อเนื่อง
น.อ.อนุดิษฐ์ ระบุว่า โดยเฉพาะโครงการพัฒนาการป้องกันฐานที่ตั้งทางทหารของกองทัพอากาศ (GBAD) มูลค่าโครงการ 940 ล้านบาท ที่มีความพยายามรวบรัดให้จบก่อนสิ้นเดือน ก.ย.64 ซึ่งเป็นช่วงปลายปีงบประมาณ และเป็นช่วงที่ข้าราชการ รวมไปถึงข้าราชการทหารระดับสูงจะเกษียณอายุราชการ ล่าสุดทราบได้สรุปผลและได้เอกชนผู้ดำเนินการแล้วเมื่อ 23 ก.ย.64 หลังจากที่ก่อนหน้านั้นมีการล้มการประกวดราคาไปถึง 3 ครั้ง และครั้งล่าสุดเป็นครั้งที่ 4 ได้มีการเปลี่ยนวิธีการประกวดราคาจากเดิมที่ใช้การคัดเลือก มาใช้วิธีการเจาะจง โดยอ้างว่าในการประกวดราคาครั้งที่ 3 ที่ล้มไปนั้นมีผู้เข้ายื่นเสนอราคาเพียงรายเดียว
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวอีกว่า จากที่ติดตามการดำเนินโครงการ GBAD มาโดยตลอดเห็นถึงความไม่ชอบมาพากลในกระบวนการหลายจุด ซึ่งส่อไปในทางขัด พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างภาครัฐฯ และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานภาครัฐ หรือ พ.ร.บ.ฮั้วประมูล ทั้งการกีดกันเอกชนบางรายไม่ให้เข้าร่วมการประกวดราคา ก็เท่ากับเอื้อประโยชน์ให้เอกชนบางราย รวมถึงการเปลี่ยนแปลงวิธีการประกวดราคาโดยไม่มีการแก้ไขปรับปรุง TOR ตลอดจนการกำหนดระยะเวลาการยื่นเสนอราคา ที่เมื่อครั้งที่ 3 กำหนดไว้เพียง 14 วัน ทั้งที่ตามปกติโครงการอื่น ๆ ให้เวลา 30 วันสำหรับบริษัทในประเทศ และให้เวลา 45 วันสำหรับบริษัทต่างชาติ
และในครั้งที่ 4 นี้ยังมีข้อสั่งการที่อ้างถึงระดับผู้บังคับบัญชาว่า ให้เร่งกระบวนการซื้อให้เสร็จสิ้นภายใน 10 วัน ซึ่งถือว่าผิดปกติ ทั้งนี้ น.อ.อนุดิษฐ์ เปิดเผยว่า นอกจาก 3 โครงการที่ตน และ กมธ.ป.ป.ช.ติดตามตรวจสอบอยู่ ยังได้รับข้อมูลโครงการขนาดใหญ่ของกองทัพอากาศ ที่เข้าข่ายไม่ชอบมาพากลอีก 1 โครงการ คือ โครงการดาวเทียมของกองทัพอากาศวงเงินประมาณ 1,400 ล้านบาท ซึ่งกองทัพอากาศมอบให้ “ฝ่าย เสธ.” เป็นประธานจัดซื้อ และพบว่ามีการแก้ไขเปลี่ยนแปลง TOR และหลักเกณฑ์การพิจารณามากกว่า 2 ครั้ง มีการลดเกณฑ์การให้คะแนน Purchase and Development ทำให้กองทัพอากาศเสียประโยชน์ หากนำเกณฑ์ที่เปลี่ยนแปลงมาเปรียบเทียบกับเกณฑ์เดิมคงเห็นความไม่ชอบมาพากลอีกมาก
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news