ครม. เห็นชอบการบริหารจัดการการทำงานของแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ ขยายเวลาขึ้นทะเบียนให้ถูกต้อง อยู่ได้ถึง ก.พ.66
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.เห็นชอบการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว 3 สัญชาติ (กัมพูชา ลาว และเมียนมา) เพื่อสนับสนุนการควบคุม ป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งประกอบด้วย 2 กลุ่ม คือ แรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติผิดกฎหมาย ไม่ได้ขออนุญาตทำงานให้ถูกต้องตามกฎหมาย และแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติที่ดำเนินการขออนุญาตทำงานตามมติ 29 ธ.ค.63 แต่กระบวนการยังไม่แล้วเสร็จ ให้ดำเนินการตามแนวทาง ดังนี้
กลุ่มแรงงานผิดกฎหมายที่ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต สามารถอยู่ในราชอาณาจักรและให้ทำงานได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยต้องดำเนินการ ให้นายจ้างยื่นคำขออนุญาตทำงานแทนคนต่างด้าวภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ประกาศมีผลใช้บังคับ ซึ่งจะสามารถทำงานและอยู่ในราชอาณาจักรได้ถึง 28 ก.พ.66
ให้คนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตทำงานแล้ว ต้องดำเนินการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนหรือประกันสุขภาพ ตรวจโรคต้องห้าม และจัดเก็บอัตลักษณ์บุคคล ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2565 หากไม่ดำเนินการดังกล่าว การอนุญาตทำงานและอยู่ในราชอาณาจักรจะสิ้นสุดลง และเมื่อแรงงานต่างด้าวขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนหรือประกันสุขภาพ ตรวจโรคต้องห้าม และจัดเก็บอัตลักษณ์บุคคลแล้ว ให้ดำเนินการตรวจอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ภายในวันที่ 1 ส.ค.65 ซึ่งจะอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ได้ถึง 13 ก.พ.66 หากไม่ดำเนินการจะอยู่ในราชอาณาจักรได้ถึง 1 ส.ค.65
กลุ่มแรงงานต่างด้าวที่ได้ดำเนินการตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.63 แล้ว แต่ยังไม่แล้วเสร็จ โดยรัฐขยายระยะเวลาการยื่นคำขออนุญาตทำงาน จากภายในวันที่ 16 มิ.ย.64 เป็นภายในวันที่ 13 ก.ย.64 เพื่อให้สามารถอยู่ในราชอาณาจักรและทำงานได้ถึงวันที่ 31 มี.ค.65 หากแรงงานต่างด้าวกลุ่มดังกล่าวต้องการจะทำงานในราชอาณาจักรได้ถึงวันที่ 28 ก.พ.66 ต้องดำเนินการตรวจโรคต้องห้ามภายในวันที่ 18 ต.ค.64 และปรับปรุงทะเบียนประวัติภายในวันที่ 31 มี.ค.65
ไทยพร้อมลงนามความร่วมมือด้านการศึกษากับฟินแลนด์ ขับเคลื่อนพัฒนาหลักสูตร งานวิจัย เพิ่มทักษะทั้งครูและนักเรียน
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.อนุมัติให้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างกระทรวงศึกษาธิการแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงศึกษาธิการและวัฒนธรรมแห่งสาธารณรัฐฟินแลนด์ ซึ่งจะมีการลงนามในเดือนก.ย.นี้ ที่กระทรวงศึกษาธิการ โดยร่างบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและพัฒนาความร่วมมือระหว่างคู่ภาคีในด้านการศึกษาบนพื้นฐานของประโยชน์ร่วมกัน ดำเนินการภายใต้ 4 สาขาความร่วมมือที่สนใจร่วมกัน คือ การศึกษาในระดับปฐมวัย ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา, การศึกษาและการฝึกอบรมด้านเทคนิคและอาชีวศึกษา, การศึกษานอกระบบ การศึกษาตามอัธยาศัย และการเรียนรู้ตลอดชีวิต และการฝึกอบรมสำหรับครูและหรือผู้บริหารสถานศึกษาใน โรงเรียนและการฝึกอบรมด้านอาชีวศึกษา ซึ่งจะขับเคลื่อนผ่าน 6 รูปแบบความร่วมมือ ได้แก่ แลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการออกแบบและพัฒนาหลักสูตรการศึกษา, ส่งเสริมและสนับสนุนความร่วมมือด้านการพัฒนาการรู้หนังสือ ทักษะวิชาการ ทักษะชีวิต การศึกษาสิ่งแวดล้อม การพัฒนาด้านเกษตรกรรม พลศึกษา และการเรียนรู้ตลอดชีวิต, ส่งเสริมและสนับสนุนความร่วมมือด้านการพัฒนาทักษะวิชาชีพและการทำงาน ตลอดจนทักษะการจัดการทางการศึกษาสำหรับครู ผู้อำนวยการ และบุคลากรทางการศึกษา, แลกเปลี่ยนข้อมูลด้านระบบการประเมินผล, แลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการวิจัยทางการศึกษาและสนับสนุนความร่วมมือในการวิจัยร่วมกันเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา และคู่ภาคีอาจตัดสินใจร่วมกันเกี่ยวกับความร่วมมือในสาขาอื่นๆ ได้ ในส่วนของงบประมาณนั้น แต่ละฝ่ายจะรับผิดชอบจัดหาเงินทุนในการดำเนินกิจกรรมของตนเอง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news