Home
|
ข่าว

มติฝ่ายค้าน4ตค.ยื่นปปช.เอาผิดนายกฯ-ครม.ทั้งคณะ

Featured Image
ฝ่ายค้าน นัด 4 ตค.ยื่น ปปช.เอาผิดนายกฯ-ครม.ทั้งคณะ ส่อเอื้อประโยชน์ซื้อวัคซีน ส่อทุจริตจัดหาชิโนแวค-ATK

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย แถลงผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่มีหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านเป็นประธานการประชุม ว่า ในประเด็นที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา โดยพรรคร่วมฝ่ายค้านมีมติร่วมกันเพื่อยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และนัดหมายยื่นพร้อมกันในวันจันทร์ที่ 4 ต.ค. เวลา 10.00 น. จำแนกยื่นเป็น 4 ชุด คือ ยื่นเอาผิดคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ , ยื่นเอาผิด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี , ยื่นเอาผิด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขยื่นเอาผิด นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่วนประเด็นที่จะยื่นเอาผิดนั้น อาทิ เรื่องการไม่เข้าร่วมโครงการโคแวกซ์ ,เรื่องการผูกขาดเอื้อประโยชน์เกี่ยวกับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ,เรื่องการทุจริตการจัดซื้อวัคซีนซิโนแวค ,เรื่องส่อไปในทางส่อทุจริตการจัดซื้อชุดตรวจ ATK ,เรื่องการบริหารจัดการวัคซีนที่ไร้ประสิทธิภาพ รวมถึงเรื่องส่อทุจริตเกี่ยวกับยางพารา เป็นต้น

ทั้งนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาในประเด็นที่เกี่ยวกับเรื่องการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี ตามบทบัญญัติมาตรา 158 วรรคสี่ เขียนชัดว่านายกนัฐมนตรีมีวาระไม่เกิน 8 ปี เพื่อไม่ให้ผูกขาดอำนาจและเป็นประเด็นปัญหาในอนาคต

ซึ่งข้อกฎหมายนั้นพรรคร่วมฝ่ายค้ายเห็นว่ากฎหมายเขียนชัดต้องตีความลายลักษณ์อักษรอย่างเคร่งครัดและ ไม่ต้องยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย พร้อมชี้ว่าตัวบทกฎหมายกำหนดไว้ชัดเจนอยู่แล้ว ซึ่งถือว่าได้ดำรงวาระตั้งแต่สิงหาคม 2557 หากต้องยื่นตีความ ส.ส.ต้องเข้าชื่อกันตามมาตรา 82 ว่านายกรัฐมนตรีขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 หรือไม่ และพรรคฝ่ายค้านจะยื่นเมื่อพรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นบัญชีนายกรัฐมนตรี การเลือกตั้งครั้งต่อไป หรือเป็นหน้าที่ของ คณะรัฐมนตรี(ครมและ คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ในการยื่นตีความ

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube