“พิธา” และคณะลงพื้นที่ศูนย์แยกกักตัวชุมชน อ.มะขาม ชี้จันทบุรีเข้าขั้นวิกฤตป่วยนิวไฮ 450 คนต่อวัน จี้มหาดไทยสนับสนุนงบประมาณจัดการปัญหาโควิด หลังไม่ส่งงบสนับสนุนท้องถิ่นทำพื้นที่ได้รับความลำบาก
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค, นางสาวญาณธิชา บัวเผื่อน ส.ส.จันทบุรี เขต 3 พรรคก้าวไกล และส.ส. ลงพื้นที่ ณ ศูนย์แยกกักตัวในชุมชนอำเภอมะขาม
โดยนายพิธา กล่าวว่า สถานการณ์ภาพรวมในประเทศไทยที่รัฐบาลรายงานให้สังคมทราบมีจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงแต่สถานการณ์โควิดในจังหวัดจันทบุรีกำลังเข้าขั้นวิกฤติ เจอนิวไฮผู้ติดเชื้อสูง 450 รายต่อวัน ตนรู้สึกเป็นห่วงชาวจันทบุรีและอยากรับฟังปัญหาว่าจะสามารถแบ่งเบาภาระของบุคลากรท้องถิ่นได้?อย่างไรบ้าง
ด้านตัวแทนเจ้าหน้าที่ศูนย์แยกกักตัวในชุมชนอำเภอมะขาม กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยออกคำสั่งให้แต่ละพื้นที่ตั้งศูนย์แยกกักตัว แต่กลับไม่ส่งงบประมาณมาให้สร้างความลำบากให้กับหลายพื้นที่เป็นอย่างมาก โดยศูนย์ดูแลผู้ป่วยแห่งนี้ใช้เงินก่อตั้งจากเงินสะสมของท้องถิ่นที่ปกติจะต้องนำไปใช้ในการดูแลประชาชนในด้านต่างๆ มาใช้เฉพาะหน้าไปก่อน เนื่องจากรัฐบาลไม่ได้สนับสนุนงบประมาณให้กับท้องถิ่นเพื่อจัดการปัญหาโควิด โดยทางเทศบาลฯ ที่มีเงินสะสมอยู่เพียง 3.8 ล้านบาท แต่ต้องนำเงินสะสมจำนวน 1.7 ล้านบาท มาใช้ก่อตั้งศูนย์แยกกักตัวเพื่อดูแลผู้ป่วยในพื้นที่ ทั้งนี้ยังไม่รวมค่าจัดการอีกกว่าเดือนละ 70,000 บาท ซึ่งหากยังเป็นอย่างนี้ต่อไปท้องถิ่นเองก็จะไม่เหลืองบประมาณเพื่อดูแลประชาชนในด้านอื่นๆ อีกจึงขอยื่นหนังสือต่อหัวหน้าพรรคก้าวไกลเพื่อนำไปยื่นให้ฝ่ายรัฐบาลปรับปรุงการบริหารงบประมาณต่อไป
ด้านนายพิธา ระบุว่า นี่คือปัญหาที่เกิดขึ้นไม่เพียงแต่เกิดขึ้นกับจังหวัดจันทบุรีเท่านั้น แต่ท้องถิ่นทั่วประเทศกำลังประสบปัญหาที่ไม่มีงบประมาณในการจัดการปัญหาด้วยตัวเอง ?ตนรู้สึกเห็นใจบุคลากรท้องถิ่นทุกท่านไม่ว่าจะเป็นบุคลากรทางการแพทย์และบุคลากรทุกภาคส่วนที่ต้องทำงานอย่างหนัก ทั้งที่ไม่มีงบประมาณในการสนับสนุนเท่าที่ควร ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้มาจากการงดเก็บภาษีที่ดินในท้องถิ่นทำให้งบประมาณไม่เพียงพอ? และงบกลางที่ควรจะนำมากระจายให้กับท้องถิ่นเพื่อจัดการปัญหาก็กลับถูกโยกไปให้นายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว หลายพื้นที่กำลังเผชิญกับปัญหางบประมาณที่ลดน้อยลง แต่จำนวนผู้ติดเชื้อสูงมากขึ้น บุคลากรหน้างานมีภาระงานเพิ่มขึ้น แต่กลับไม่ได้รับการแยแสจากรัฐบาล
ทั้งนี้หัวหน้าพรรคก้าวไกลได้เสนอให้มีการจัดการสถานการณ์เฉพาะหน้า ซึ่งตนมีความเห็นว่าในลำดับแรกเราควรต้องทำการ Bubble and Seal ก่อน เพราะคลัสเตอร์ 450 คนล่าสุดเกิดขึ้นในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.โป่งน้ำร้อน, อ.สอยดาว, อ.เมือง และอ.ท่าใหม่ และมาจาก 4 คลัสเตอร์ คือ ตลาดนัด, เเรงงานล้งลำไย, ก่อสร้าง งานบุญ ประเพณีและงานศพ ซึ่งหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นควรเริ่มจากมาตรการเบาไปหนัก อาจจะต้องมีการจำกัดมาตรการในกลุ่ม 4 คลัสเตอร์นี้ก่อน มีการใช้ การตรวจ ATK ปูพรม 1 ครั้ง ถึง 2 ครั้ง ต่ออาทิตย์
หากมาตรการนี้ใช้ไม่ได้อาจะต้องคิดถึงมาตรการล็อกดาวน์แต่ไม่ใช่การล็อกดาวทั้งหมดแต่ต้องเลือกล็อกดาวน์เฉพาะอำเภอที่มีการแพร่ระบาด ไม่ให้แพร่ระบาดข้ามเขตกัน หากเอาไม่อยู่จริงๆก็ต้องดำเนินการมาตรการขั้นเด็ดขาด คือ ล็อกดาวน์ทั้งจังหวัด? ในระหว่างนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องมีการบริหารเอางบกลางมาใช้ในการเยียวยา ในช่วงที่พวกเขาต้องรักษาตัวหรืออยู่ในช่วง Buble and Seal โดยนายพิธา กล่าวเพิ่มเติมว่า ข้อเสนอที่ตนเสนอ 3 ข้อนี้ เปรียบเหมือนบันได 3 ขั้นไล่จากเบาไปหนัก มีการเตรียมพร้อมและมีการเยียวยาเมื่อจำเป็นต้อง มีมาตรการขั้นเด็ดขาด เพื่อทำให้จันทบุรีกลับมาสู่สถานการณ์ปกติได้เร็วที่สุด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news