นายกฯเปิดงานพลิกโฉมประเทศ วางเป้าหมายมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ. 2065 ยกร่างกฏหมายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครอบคลุมทุกมิติ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานและกล่าวปาฐกถาพิเศษ ในงาน Global Compact Network Thailand – (GCNT) Forum 2021
ภายใต้หัวข้อ “บทบาทผู้นำ มุ่งสู่การลงมือแก้ไขปัญหาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Leadership for Climate Actions)” ผ่านระบบการประชุมทางไกล ซึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า
รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (climate change) ซึ่งมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น และต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาในทุกระดับ โดยไทยให้ความสำคัญ
กับการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างสมดุลและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามโมเดลเศรษฐกิจ BCG ตลอดจนหามาตรการเพื่อแก้ไขปัญหา climate change โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการลด
และควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อปรับเปลี่ยนแนวทางการผลิตและพฤติกรรมการบริโภค ที่ผ่านมาประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมทำให้เกิดกระแสต่อต้านสินค้าบางประเภทแล้ว อาทิ
กรณีการต่อต้านน้ำมันปาล์มที่ผลิตในอินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย ในสหภาพยุโรป (อียู) และปัจจุบัน อียูอยู่ระหว่างร่างระเบียบมาตรการการปรับคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดน (CBAM) ซึ่งคาดว่า
มาตรการดังกล่าวจะเริ่มบังคับใช้ในปี 2566 ครอบคลุมสินค้า 5 ประเภท ได้แก่ ซีเมนต์ พลังงานไฟฟ้า ปุ๋ย เหล็กและเหล็กกล้า และอะลูมิเนียม และมีแนวโน้มที่จะขยายไปยังสินค้าอื่น ๆ
ในอนาคต ขณะเดียวกัน เริ่มมีกระแสในสหรัฐฯ และแคนาดาที่อาจพิจารณาใช้มาตรการในลักษณะคล้ายคลึงกันด้วย
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นโอกาสที่ไทยจะ “พลิกโฉมประเทศ” สู่เศรษฐกิจสร้างคุณค่า เน้นการเติบโตที่สมดุล ยั่งยืน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น สร้างพลวัตใหม่ให้แก่เศรษฐกิจ และจะเป็นประโยชน์สำหรับภาคธุรกิจทุกขนาด ทั้งนี้ไทยต้องเร่งพัฒนาองค์ความรู้และเพิ่มขีดความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ ภาคเอกชนไทยจำเป็นต้องปรับตัว แม้การปรับตัวจะมีค่าใช้จ่ายแต่การไม่ปรับตัวจะทำให้มีค่าใช้จ่ายที่มากกว่าในระยะยาว โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับกระทรวงพลังงานได้จัดทำเป้าหมายการมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ. 2065 ด้วย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลส่งเสริมโมเดลเศรษฐกิจ BCG โดยต่อยอดจากหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง อาทิ รัฐบาลมีเป้าหมายที่จะปลูกต้นไม้100 ล้านต้นภายในปี 2565 และขอเชิญชวนภาคเอกชนมีส่วนร่วมในโครงการนี้ รวมทั้งการริเริ่มโครงการอื่น ๆ ที่มุ่งใช้จุดแข็งในเรื่องภูมิปัญญาท้องถิ่นและทรัพยากรธรรมชาติของไทยและส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ปรับตัวตามทิศทางบรรทัดฐานใหม่ ๆ ในเวทีระหว่างประเทศ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter :https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news