นายกฯ เตรียมประชุม ครม.พิจารณาความพร้อมเปิดประเทศ 1 พ.ย.รับท่องเที่ยวโดยไม่ต้องกักตัว ช่วยเหลือน้ำท่วม ขณะ สศช.เสนอมาตรการเยียวยาแท็กซี่ จักรยานยนต์รับจ้าง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่ ตึกสันติไมตรีทำเนียบรัฐบาลตามปกติโดยมีบรรดารองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุมอย่างพร้อมเพียงกัน โดยได้ปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
สำหรับประเด็นการประชุมที่น่าสนใจนั้น จะมีการพิจารณาเตรียมความพร้อมในการเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย. เป็นต้นไป โดยไม่ต้องกักตัว สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนครบโดสที่เบื้องต้นได้กำหนดไว้ที่ 10 ประเทศความเสี่ยงต่ำก่อน และทยอยเพิ่มประเทศอีกในช่วงต้นปี 65 รวมถึงประเด็นการปรับคณะรัฐมนตรี เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดประเทศและการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นครั้งหน้า
นอกจากนี้ คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ฯ ที่มีเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จะมีการเสนอมาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบอาชีพแท็กซี่ และรถจักรยานยนต์รับจ้าง ที่มีอายุเกินกว่า 65 ปีขึ้นไป ที่ไม่เข้าข่ายได้รับการเยียวยาจากผลกระทบล็อกดาวน์ในครั้งที่ผ่านมาเนื่องจากไม่สามารถลงทะเบียนในระบบประกันสังคมได้
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมวันนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี จะมีการรายงานถึงการลงพื้นที่รับฟังรายงานสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือประชาชนแนวทางบริหารจัดการน้ำรวมถึงปัญหาอุปสรรคและแนวทางแก้ไขปัญหา ที่นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยประชาชนผู้ประสบปัญหาอุทกภัยจึงมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี เวียนกันลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นสิ่งที่รัฐบาลเร่งดำเนินการลำดับแรก ซึ่งเมื่อสถานการณ์คลี่คลายจะเร่งปรับปรุงระบบสาธารณูปโภค และดำเนินการเยียวยาประชาชนและภาคการเกษตรในพื้นที่ต่อไป พร้อมกันนี้ยังต้องติดตามสถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่รวมถึงพายุลูกใหม่ที่จะเข้าสู่ประเทศไทย ที่จะส่งผลให้เกิดความเสียหายกับประชาชนพื้นที่เกษตร
และพื้นที่เศรษฐกิจเพิ่มเติมอีกด้วย
“พิพัฒน์” ยันพร้อมเปิดประเทศ 1พ.ย. นี้ ช่วงชิงนักท่องเที่ยว หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ ตั้งแต่ไตรมาส 4 เสนอชื่อ10ประเทศไม่ต้องกักตัวแล้ว รอศบค.ชี้ขาด
ทางด้านนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงนโยบายการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวโดยไม่ต้องกักตัวในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ว่าไม่น่าจะมีปัญหา เพราะทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้เตรียมความพร้อมไปก่อนหน้านี้แล้ว ทุกอย่างยังคงอยู่ในแผนระยะที่1 และมีความต่อเนื่อง หลังนำร่องจังหวัดภูเก็ตแซนด์บล็อกที่จะมีการเปิดพื้นที่อีก 10 จังหวัดท่องเที่ยว แต่นโยบายของนายกรัฐมนตรีเป็นการเร่งเปิดประเทศเร็วขึ้น เพราะขณะนี้ประเทศเพื่อนบ้านได้เปิดรับนักท่องเที่ยวแล้ว เวลานี้จึงถือเป็นการช่วงชิงนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ทั้งนี้นายพิพัฒน์ กล่าวว่า เชื่อว่าการเปิดประเทศในครั้งนี้จะสามารถต่อสู้และดึงนักท่องเที่ยวกลับมาประเทศไทยในช่วงไตรมาสที่ 4 รวมถึงไตรมาสที่1 ของปี65ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพราะประเทศไทยถือเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น จีน และเกาหลี ในช่วงฤดูหนาว ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมการตรวจคัดกรองที่สนามบินให้มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยยึดต้นแบบจากภูเก็ตแซนบล็อก
ส่วนรายชื่อ 10 ประเทศเสี่ยงต่ำที่จะเข้ามาในประเทศไทยเป็นกลุ่มแรกนั้น กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้เสนอไปแล้ว แต่ต้องรอ ศบค.ชุดเล็กพิจารณาก่อนซึ่งรายชื่อที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงเมื่อคืนนี้เป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวในประเทศไทยอยู่แล้ว ส่วนประเทศในอาเซียนที่จะเข้าในประเทศไทยในรูปแบบBubble ต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมของประเทศเพื่อนบ้าน คือ ต้องฉีดวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็ม จึงจะสามารถเข้าประเทศได้
“อนุทิน”พร้อมสนองนโยบายเปิดประเทศ รอ ศบค.เคาะชื่อ 10 ประเทศเสี่ยงต่ำ สั่งกรมควบคุมโรคเตรียมรับมือเปิดสถานบันเทิง-ดื่มเหล้าในร้านอาหาร ขอทุกคนเคารพกฎหมาย
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้กล่าวถึงกรณี นายกรัฐมนตรี แถลงเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวโดยไม่ต้องกักตัว ในวันที่ 1 พ.ย. นี้
ว่า ได้เตรียมความพร้อมไว้ระดับหนึ่งแล้ว และมีการหารือในกระทรวงสาธารณสุข เพื่อตอบสนองนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่จะมีการเปิดประเทศ ส่วนรายชื่อ 10 ประเทศความเสี่ยงต่ำ
ที่จะเปิดให้เข้าประเทศได้เป็นกลุ่มแรก ต้องให้ศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศปก.ศบค. พิจารณาก่อนจึงจะสามารถประกาศได้ พร้อมยืนยัน ว่า กระทรวงสาธารณสุข
ไม่มีปัญหากับกระทรวงการต่างประเทศ เพราะนายกรัฐมนตรี ได้ย้ำถึงเหตุผลจำเป็นในการต้องเปิดประเทศไปแล้ว ทางกระทรวงสาธารณสุขจึงต้องดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวอย่างระมัดระวัง
ส่วนที่นายกรัฐมนตรีแถลงว่า การเปิดประเทศในครั้งนี้เสี่ยงเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่นั้น นายกรัฐมนตรีเพียงพูดเผื่อไว้เท่านั้น ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าสามารถเปิดประเทศได้
หากในอนาคตเกิดการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์ใหม่จึงค่อยพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร เพื่อแก้ไขปัญหาในทุกมิติ
ส่วนมาตรการผ่อนคลายอนุญาติให้ดื่ม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารในวันที่ 1 ธ.ค.นั้น นายอนุทิน ระบุว่า กรมควบคุมโรคจะต้องหามาตรการ เช่น Covid Free Setting ให้กับบริกร
และลูกค้า ซึ่งผับ บาร์ สถานบันเทิงก็จะใช้มาตรการเดียวกัน เพราะถือเป็นจุดเสี่ยงที่ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก เนื่องจากเป็นจุดที่มีการสัมผัสของร่วมกันได้ง่าย ส่วนการเปิดประเทศ
ในครั้งนี้จะมีแนวโน้มปิดประเทศใหม่อีกครั้งหรือไม่นั้น นายอนุทิน ระบุว่า ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และความการร่วมมือของทุกฝ่าย หากไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดก็มีสิทธิ์ที่จะต้องปิดประเทศใหม่
อีกครั้ง ดังนั้นขอให้ทุกคนเคารพกฎหมาย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news