นายกฯ กำชับศธ.ให้สถานศึกษาปฏิบัติตามมาตรการ 6-6-7 เน้นความปลอดภัยของนักเรียน
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากกระทรวงศึกษาประกาศให้โรงเรียนหลายแห่งเปิดเรียนภาคการศึกษา 2/2564 ในรูปแบบ On-Site วันแรกเมื่อวันที่ 1 พ.ย.64 มีโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่พร้อมเปิดเรียนทั้งแบบ On Site และแบบผสม Online แล้ว ประมาณ 12,000 โรงเรียน โดยภาพรวมเป็นไปด้วยดี ผู้ปกครองมีความมั่นใจที่จะส่งบุตรหลานไปโรงเรียน นักเรียนมีความกระตือรือร้นและพร้อมให้การป้องกันตนเองสามารถปรับตัวกับชีวิตวิถีใหม่ในการไปโรงเรียน ทางสถานศึกษาและครูได้เตรียมพร้อมทั้งการจัดระบบคัดกรองก่อนเข้าโรงเรียน นักเรียน ครู และบุคลากร ทุกคนต้องประเมิน Thai Save Thai (TST) ตามเกณฑ์จำแนกตามเขตพื้นที่การแพร่ระบาด รวมถึงมีการสุ่มตรวจคัดกรองหาเชื้อ (ATK) การเว้นระยะห่างในการเข้าแถว การจัดสถานที่ในโรงเรียน ห้องเรียน โรงอาหาร ให้มีพื้นที่ปลอดโปร่ง พร้อมจัดจุดล้างมือไว้บริการทั่วทั้งโรงเรียน บางโรงเรียนบริหารจัดการเรื่องการเรียนการสอนโดยสลับวันมาเรียนเพื่อไม่ให้เกิดความแออัด ควบคุมดูแลการเดินทางกรณีมีการเข้าและออกจากสถานศึกษาอย่างเข้มข้น
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำชับการฉีดวัคซีนสำหรับเด็กนักเรียน ครู รวมไปถึงบุคลากรภายในโรงเรียนทุกระดับ เพื่อสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับนักเรียนโดยคาดหวังให้โรงเรียนกลับมาเปิดเรียน On Site ให้มากที่สุด ซึ่งขณะนี้จำนวนนักเรียนที่มีความประสงค์เข้ารับการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นโดยตลอด ผู้ปกครองมีความมั่นใจในความปลอดภัย เพียงแต่ยังมีบางส่วนและเป็นส่วนน้อยที่อยู่ในช่วงของการตัดสินใจรับวัคซีน โดยในส่วนของความก้าวหน้าการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับเยาวชน นักเรียน นักศึกษา มีผู้ที่แสดงความประสงค์ฉีดวัคซีนผ่านคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดทั่วประเทศแล้วกว่า 3.82 ล้านคน มีการฉีดวัคซีนให้กับเด็กนักเรียนอายุ 12 ขึ้นไป (นักเรียนชั้น ป.6/ม.1/นักศึกษา ปวช. 1-3/ปวส. 1-2) สะสมแล้วจำนวน 2.83 ล้านคน คิดเป็น 74.16% ของผู้ที่ประสงค์รับวัคซีน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ตุลาคม 2564)
ทุกหน่วยงานเร่งรณรงค์ทำความเข้าใจให้นักเรียนเข้ารับการฉีดวัคซีนมากที่สุด เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครองเอง
โดยกระทรวงศึกษาธิการ ได้เน้นย้ำ ให้สถานศึกษาปฏิบัติตามมาตรการ 6-6-7 อย่างเคร่งครัด (6 มาตรการหลัก (DMHT-RC) 6 มาตรการเสริม (SSET-CQ) และแนวทาง 7 มาตรการเข้มสำหรับสถานศึกษา) ถึงแม้จะได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว แต่สิ่งที่ต้องปฏิบัติตลอดคือการสวมหน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่าง การล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์อยู่เสมอ โดยมาตรการ 6-6-7 ได้แก่
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุข ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด วันนี้สังคมไทยเข้าใจในเรื่องของการใช้ชีวิตอยู่กับโควิด-19 มากขึ้น ผู้ปกครองมีความมั่นใจให้ลูกหลานออกไปทำกิจกรรมใช้ชีวิตข้างนอก เด็กๆ มีความสุขกับการไปโรงเรียนและสนุกที่ได้เจอเพื่อนมีสังคม รู้จักป้องกันตัวเองอย่างเคร่งครัด สถานศึกษา ครู รวมทั้งบุคลากร มีความพร้อมและมุ่งมั่นในการเรียนการสอบรูปแบบใหม่ ภายใต้ความปลอดภัยอย่างเข้มงวดของมาตรการ 6-6-7 เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตรูปแบบปกติใหม่ เมื่อเจอสถานการณ์การแพร่ระบาดจะสามารถรับมือได้อย่างทันท่วงที
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news