“บิ๊กตู่” ประกาศจุดยืนรัฐบาลไม่ยอมให้เสนอแก้ม. 112
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยืนยันจุดยืนในฐานะเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลไม่มีการให้เสนอแก้ไข ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 รวมถึงไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญที่กำลังมีการเคลื่อนไหวในขณะนี้ ที่จะขยายความแก้ไขในเรื่องเดียวกัน ซึ่งเรื่องนี้พรรคร่วมรัฐบาลไม่เห็นด้วย ส่วนฝ่ายอื่นที่จะแก้ก็ว่ากันไป อย่างไรก็ตามย้ำว่าเรื่องนี้มีความสำคัญเพราะเป็นเรื่องของความมั่นคงของประเทศ ไม่ควรทำลายสิ่งที่ เราและคนไทยทั้งประเทศเคารพนับถือ ซึ่งการเมืองบางกลุ่มอาจจะไม่เข้าใจ แต่ตนหวังว่าในวันข้างหน้าจะเข้าใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งทุกประเทศมีประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมประเพณีมายาวนาน ไม่มีใครคิดจะลบล้างสิ่งดีๆที่สืบทอดกันมา แล้วทำสิ่งใหม่ที่ไม่มีกฎกติกา
นายกฯ บอกรอคุย”พล.อ.ประวิตร” มีชื่อประธานวิปรัฐบาลแล้วย้ำต้องได้คนทำหน้าที่ประสานงานในสภาดีที่สุด ย้ำ คุยกันทุกเรื่องไม่มีปัญหา เพราะเป็นพี่น้องกัน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการสรรหาประธานคณะกรรมการประสานงาน (วิปรัฐบาล)แทนนายวิรัช รัตนเศรษฐ ที่ศาลมีคำสั่งให้ประทับรับฟ้อง และหยุดปฏิบัติหน้าที่ กรณีถูกกล่าวหาทุจริตสนามฟุตซอล จังหวัดนครราชสีมา ว่า ได้รับทราบเรื่องแล้ว แต่จะต้องมีการหารือกับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐก่อน เพราะเป็นตำแหน่งที่สำคัญจะต้องเตรียมการงานในสภา ทราบว่าได้มีการเตรียมรายชื่อเอาไว้แล้วแต่ตนยังไม่ได้คุยกับพล.อ.ประวิตร ซึ่งเรื่องนี้จะต้องพิจารณาโดยเร็ว เพราะงานในสภาสำคัญ จะต้องหาคนที่ทำหน้าที่ได้ดีที่สุด
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า จะไม่ก้าวล่วงการทำงานในพรรคพลังประชารัฐเพราะตนไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค แต่เป็นพรรคที่เสนอชื่อตนเป็นนายกรัฐมนตรี ดังนั้นหากมีอะไรก็จะต้องคุยกับหัวหน้าพรรคเพื่อทำความเข้าใจกับลูกพรรค ไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิดความสับสนวนไปมาทำให้เกิดปัญหาได้ ดังนั้นตนกับพลเอกประวิตรคุยกันทุกเรื่อง เพราะเป็นพี่น้องกันอยู่แล้ว
นายกฯ โต้ ปมลอกสปีด”บารัก โอบามา” ยัน ผู้นำคิดเหมือนกัน บอกมีโลกใบเดียวไม่มีโลกใบใหม่ ขออย่าขัดแย้งทำเดินหน้าประเทศสะดุด ลั่นอย่าทำอะไรให้เสียหาย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางถึงประเทศไทยในเวลาประมาณ 17.00 น หลังเสร็จสิ้นภารกิจเข้าร่วมประชุมระดับผู้นำในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC: COP) สมัยที่ 26 ที่สหราชอาณาจักร โดยมีคณะแพทย์พยาบาลจากโรงพยาบาลราชวิถี มาทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบเร่งด่วน Antigen Test Kit (ATK) ว่า ในระหว่างการประชุมตนได้พบปะพูดคุยกับผู้นำต่างประเทศ ซึ่งได้ชื่นชมและรู้จักประเทศไทยเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งก็มีการเจรจาว่าในระยะต่อไปก็สามารถร่วมมือระหว่างกันได้ และสามารถเปิดการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ซึ่งจะต้องมีการประเมินผล 15 วัน ซึ่งตนขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ทำงานหนักมาก
นอกจากนี้ ในที่ประชุมตนยังได้มีโอกาส ได้พบปะกับผู้นำหลายประเทศ ซึ่งได้กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมครั้งนี้โดยส่วนใหญ่เป็นประเทศที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์สภาวะโลกร้อน ทำให้เกิดภัยพิบัติต่างๆ ฝนฟ้าไม่ตกตามฤดูกาล สถานการณ์ต่างๆเปลี่ยนแปลงไป ทุกอย่างเกิดขึ้นจากการกระทำของมนุษย์ทั้งสิ้น ดังนั้น นายกรัฐมนตรี จึงได้มีการนำเสนอสิ่งที่ประเทศไทยทำอะไรไปบ้างแล้วตามคำกล่าวในเวที ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้นำควรจะทำต้องมองทั้งปัจจุยันและอนาคต ไม่ใช่ทำเชิงรุกอย่างเดียว แต่ต้องทำเชิงรับด้วย โดยมีเป้าหมายให้ประเทศไทยพ้นจากระดับประเทศที่มีรายได้ปานกลาง และทั้งหมดขึ้นอยู่กับทุกคนที่ต้องเข้าใจ และพลิกโฉมประเทศไทยให้ได้ ซึ่งจะต้องร่วมมือคณะกรรมการต่างๆบูรณาการร่วมกัน โดยให้ประชาชนนัเนมีส่วนร่วม
ขณะเดียวกัน การประชุมในครั้งนี้ได้มีการพบปะกับเจ้าฟ้าชายชาร์ล โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่าถือเป็นโอกาสที่ดี ที่ได้พบปะกับผู้นำ เช่น นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ดีตั้งแต่รัฐบาลก่อน มีการทักทายกันด้วยบรรยากาศที่เป็นมิตร และทุกคนยังตอบรับประเทศไทยเป็นอย่างดี โดยตนเองได้มีการชักชวนให้ผู้นำประเทศต่างๆ เข้าร่วมประชุมเอเปคที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในปีหน้า ซึ่งมีผู้นำบางส่วนรับปากว่าจะเข้าร่วม นอกจากนี้ผู้นำหลายประเทศยังเข้าใจสถานการณ์ในประเทศไทยดี พร้อมกับขอให้ทุกภาคส่วนนั้นให้กำลังใจซึ่งกันและกันและอย่าขัดแย้งอะไรอีกเลย ไม่เช่นนั้นก็ไม่สามารถเดินหน้าประเทศไม่ได้ พร้อมกับย้ำอีกว่าหากอยากได้อะไร ก็ต้องร่วมกันทำ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม ซึ่งมีการวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมออนไลน์ว่ามีเนื้อหาบางส่วนคล้ายคลึงกับนายบารัก โอบามา? อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ดำเนินการจัดเตรียมเนื้อหาคำกล่าวถ้อยแถลงดังกล่าว ซึ่งส่วนใหญ่ผู้นำอาจคิดเหมือนกันก็ได้ ตนเองคงจำไม่ได้ว่า ใครเคยพูดอะไร โดยตนเองได้มีการสอบถามทางกระทรวงการต่างประเทศ ว่า การอ่านถ้อยแถลงของตนเองนะจะมีปัญหาหรือไม่ ในเรื่องของการใช้คำว่า Plan B เพราะการพูดต้องมีศัพท์การพูดทั้ง Plan A และ Plan B ซึ่งทุกประเทศก็ใช้คำนี้กันทั้งหมด ซึ่งตนได้เน้นย้ำในที่ประชุมว่าโลกใบนี้มีอยู่ใบเดียว ไม่มีโลกไปใหม่อีกแล้ว อย่าทำให้โลกเสียหาย
ทั้งนี สิ่งสำคัญ ต้องขอขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจมายังนายกรัฐมนตรี ซึ่งตนคิดว่าคนส่วนใหญ่เข้าใจ และย้ำอีกครั้งว่า อย่าทำอะไรให้เสียหาย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news