รัฐบาลเดินหน้าแก้ปัญหาราคาปุ๋ยครบวงจร ช่วยเหลือเกษตรกร ในการลดต้นทุนการผลิต ใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์ดินใช้ปุ๋ยอย่างเหมาะสม
นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจในการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากราคาปุ๋ยเคมีที่สูงขึ้นและได้มีการดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาทั้งระยะสั้น และแผนระยะยาว โดยตั้งแต่เดือนก.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดทำโครงการ”พาณิชย์ลดราคา! ปุ๋ยช่วยเกษตรกร” มีปุ๋ยเคมีเข้าร่วมโครงการ 84 สูตร รวม 4.5 ล้านกระสอบ มีการสั่งซื้อจากสถาบันเกษตรกรกว่า 2.2 ล้านกระสอบแล้วสำหรับแผนระยะยาว คือการส่งเสริมเกษตรกรให้ใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน (ปุ๋ยสั่งตัด) ผสมแม่ปุ๋ยให้ตรงกับสภาพดินและความต้องการของพืช
ทั้งนี้ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ได้ขับเคลื่อน “โครงการพัฒนาธุรกิจบริการดินและปุ๋ยเพื่อชุมชน (One Stop Service)” มาระยะหนึ่งแล้วด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการวิเคราะห์ดินและใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน หรือที่เกษตรกรเรียกว่า “ปุ๋ยสั่งตัด” โดยรัฐสนับสนุนชุดตรวจวิเคราะห์ดินแม่ปุ๋ย และเครื่องผสมปุ๋ย ผ่านกลไกการดำเนินงานของศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน (ศดปช.) ของกรมส่งเสริมการเกษตร ในพื้นที่ 394 ศูนย์ ใน 63 จังหวัด มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการแสนกว่าราย คิดเป็นพื้นที่รวม 1.3 ล้านไร่ ใช้ปุ๋ยสั่งตัดจำนวน 6 แสนไร่ ลดปริมาณการใช้ปุ๋ยเลงร้อยละ 45 ลดต้นทุนได้ร้อยละ 37 คิดเป็นมูลค่าเกือบ600 ล้านบาท และกำลังเสนอขอดำเนินงานโครงการฯ ระยะที่ 2 จำนวน 299 ศูนย์ ใน 58 จังหวัด เกษตรกร 5.2 หมื่นราย ครอบคลุมพื้นที่ 2.5 แสนไร่
นางสาวรัชดา กล่าวเพิ่มว่า ยังมีแนวทางอื่นๆทีรัฐบาลอยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาปุ๋ยเคมีราคาแพง ซึ่งประกอบด้วย การส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตปุ๋ยโปแทชภายในประเทศ การแลกเปลี่ยนปุ๋ยไนโตรเจนและโปแทชกับประเทศมาเลเซีย การหาแหล่งแม่ปุ๋ยนำเข้าจากประเทศอื่นที่นอกเหนือจากที่เคยนำเข้าเดิม ทั้งนี้ได้จัดตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการต่างประเทศ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อดูแลการขับเคลื่อนงานดังกล่าว
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news