จับตาประชุมร่วมโหวตแก้รธน.ฉบับประชาชน
ประชุมร่วมรัฐสภา พิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนวันที่ 2 จับตาลงมติแบบขานชื่อวันนี้ ต้องมีสมาชิกเห็นด้วย 363 เสียง และต้องมี ส.ว.อย่างน้อย 84 คน
การประชุมร่วมรัฐสภา ครั้งที่ 2 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….ฉบับภาคประชาชน นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ในฐานะรองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ได้สั่งปิดการประชุมในเวลา 01.39 น. และนัดลงมติร่างดังกล่าวในเวลา 10.00 น.วันนี้ (17 พ.ย.) ซึ่งตลอดทั้งวัน เปิดให้สมาชิกอภิปรายอย่างกว้างขวาง มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย วันนี้ ต้องจับตาการลงมติ โดยเฉพาะ สส.ฝ่ายรัฐบาล และ สว.ที่ดูเหมือนจะไม่เอาด้วย ทั้งนี้ การลงมติเป็นแบบขานชื่อทีละคน โดยสมาชิกรัฐสภา มี สส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ 475 คน สว. 248 คน รวม 723 คน ต้องได้คะแนนรับหลักการวาระแรกองค์ประชุมเกินกึ่งหนึ่ง คือ 363 คนขึ้นไป และต้องมีเสียง สว. 1 ใน 3 คือ 84 คน ร่างรัฐธรรมนูญนี้จึงจะผ่านได้
สำหรับการอภิปรายเมื่อคืนนี้ นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน โดยระบุ มีการกล่าวหาทั้งวันว่า พวกเราไม่เคารพ 16 ล้านเสียงที่ผ่านร่างประชามติมา จึงอยากให้ทบทวนและคิดใหม่ว่าใครกันแน่ ที่ไม่เคารพ พร้อมเชื่อว่า คนใน 16 ล้านเสียง ก็อยากแก้รัฐธรรมนูญ วอนทุกฝ่ายรับหลักการให้ประชาชนเป็นคนเขียนสเปค
จากนั้น นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้เสนอร่าง อภิปรายสรุปว่า กระบวนการในวันนี้ คือ การสร้างประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมเปิดโอกาสให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้เข้าชื่อเสนอร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ดังนั้น ร่างฉบับนี้มีเพียงความต้องการที่จะปรับปรุงเข้าสู่จุดสมดุลมากยิ่งขึ้นเท่านั้นเอง ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องสุดโต่งแต่เป็นเพียงการทำให้กติกากลับมาอีกครั้ง ส่วนที่กังวลว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะนำไปสู่การล้มล้างการปกครองนั้น ยืนยันไม่มีส่วนใดล้มล้าง หากร่างฉบับนี้จะเป็นการล้มล้างก็ไม่มีความจำเป็นใดที่จะต้องใช้ช่องทางตามรัฐธรรมนูญกำหนดผลักดันความคิดภายใต้กระบวนการ ดังนั้น อย่ากังวลและอย่ากลัวกับเราจนเกินไป ให้ประชาชนได้แสดงออกถึงการใช้อำนาจของเขาบ้าง
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news