“สันติ” ตอบกระทู้สภาเยียวยาเกษตรกรประกันราคาข้าวล่าช้า
รมช.สันติ ตอบกระทู้สภาเยียวยาเกษตรกรประกันราคาข้าวล่าช้ารับมีเงินที่คงค้างจัดสรรให้ชาวนาอีก 7.6 หมื่นล้านบาท
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงกระทู้สดด้วยวาจาต่อที่ประชุมสภาฯ ของนายุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ต่อปัญหาของรัฐบาลที่เยียวยาให้เกษตรกรชาวนาตามนโยบายประกันราคาข้าวล่าช้า และความชัดเจนต่อการยกเลิกโครงการดังกล่าว หลังจากที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุ ควรทบทวน ว่า เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2564 คณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติกรอบวงเงิน 1.3 หมื่นล้านบาท เพื่อจัดสรรให้ชาวนาตามโครงการประกันราคาข้าว และจ่ายให้ชาวนาแล้ว 2งวด คือเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน และ วันที่ 10 พฤศจิกายนโดยให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธกส.) ดำเนินการ ขณะเดียวกัน ยอมรับว่า ยังมีเงินที่คงค้างจัดสรรให้ชาวนาอีก 7.6 หมื่นล้านบาท กระทรวงการคลังได้สั่งการไปยังหน่วยงานต่างๆ ให้สำรวจการใช้งบประมาณที่อนุมัติที่ไม่จำเป็นเร่งด่วนหรือไม่จำเป็น ให้ปิดโครงการและนำเงินคืนกระทรวงการคลัง ให้มีกรอบวงเงิน เพื่อจัดสรรให้ชาวนาได้มีใช้ต่อเนื่อง โดยราคาข้าวตกต่ำที่เกิดขึ้น สืบเนื่องจากปัญหาน้ำท่วมและโควิด-19
อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังให้ความสำคัญ กรณีที่ชาวนาขายข้าว ขายพืชผลเกษตร ได้ราคาสูง ต่ำบ้าง กระทรวงการคลังเร่งรัดแจ้งไปยังหน่วยงานต่างๆ ต้องพัฒนาเกษตรกรให้เข้มแข็ง โดยเฉพาะลดต้นทุนเพาะปลูก รวมกลุ่มเป็นเกษตรแปลงใหญ่ อุตสาหกรรมทำนา จะทำให้ลดต้นทุนได้ รวมถึงแปรรูปเพิ่มมูลค่าข้าวเปลือก จะทำให้ผลิตภัณฑ์มีมูลค่าสูง ทั้งนี้ ข้าวของไทยพึ่งผู้ส่งออกรายใหญ่เท่านั้น จึงได้ขอให้กระทรวงการคลัง ดำเนินการหาผู้ซื้อรายย่อยในต่างประเทศด้วย ส่วนการชดเชยระยะสั้น ยังมีความจำเป็น เพื่อช่วยชาวนา
ทั้งนี้ นายยุทธพงศ์ ได้ตั้งคำถามต่อการประกาศนโยบายของรัฐบาล ว่า เมื่อประกาศนโยบายต้องดำเนินการให้ได้ ไม่ใช่ระบุว่า ไม่มีเงิน และพบว่า รัฐบาลยังมีค่าเก็บเกี่ยวค้างจ่ายให้เกษตรกรอีก 5.4 หมื่นล้านบาท สำหรับคำชี้แจงตนไม่เห็นความหวังว่าชาวนาจะได้เงินเมื่อไร พร้อมตั้งคำถามต่อการจัดสรรงบประมาณ 9.1 หมื่นล้านบาทด้วย
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news