“อนุทิน” เร่งให้บริการ 11 ล้านคน ที่ยังไม่ได้ฉีดอ วางเป้าจบใน 30 วัน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณียังมีประชากร ประมาณ 11 ล้านคน ยังไม่ได้รับบริการวัคซีนว่า ได้กำชับให้กรมควบคุมโรค เร่งให้บริการ และวางเป้า ต้องฉีดให้ครบใน 30 วัน นับจากนี้ อย่างไรก็ตาม ก็ต้องขอความร่วมมือจากประชาชน ให้มารับบริการด้วย
เนื่องจาก มีบางคน ที่ยังไม่ยอมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 เพราะมั่นใจว่าอยู่บ้าน มีความปลอดภัย ทั้งที่ สามารถติดจากสมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆ ได้ ขอย้ำว่า วัคซีนที่ไทยนำมาให้บริการนั้น มีประสิทธิภาพ และความปลอดภัย ป้องกันการป่วยหนัก และเสียชีวิตได้ เมื่อครั้งลงพื้นที่ไปยังจังหวัดเชียงใหม่ พบว่า ผู้สูงอายุ รับเชื้อมาจากพี่เลี้ยง แต่เพราะการได้รับวัคซีน จึงไม่ป่วยหนัก ไปจนถึงเสียชีวิต ตรงนี้ เป็นอุทาหรณ์ว่า ถึงจะอยู่แต่กับบ้าน ก็มีโอกาสได้รับเชื้อจากคนอื่นเช่นกัน และวัคซีน ก็ช่วยป้องกันการสูญเสียได้จริง
ส่วนการออกกฎหมาย เพื่อบังคับให้คนมาฉีดวัคซีน นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องไปถึงจุดนั้น เพราะสังคมจะเป็นฝ่ายกำหนดเอง เช่น เจ้าของกิจการ มีสิทธิ์ในการดูแลจัดการร้าน สามารถคัดกรองผู้ที่มาสมัคร เป็นพนักงานของร้านได้เอง ไปจนถึงการตรวจคัดกรองผู้ที่มาใช้บริการ ขอย้ำว่า การฉีดวัคซีน เป็นการเปิดโอกาสในการดำรงชีวิต ตอนนี้วัคซีนไทยมีเพียงพอ ก็ขอให้มารับบริการกันให้มากๆ เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง เพื่อความปลอดภัยของคนรอบข้าง ขอให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งฝ่ายปกครอง และฝ่ายสาธารณสุข อาทิ อสม. ช่วยรณรงค์ด้วย เมื่อก่อนจะกำหนดให้บางกลุ่มได้ฉีดก่อน อาทิ ผู้ป่วย ผู้สูงวัย ต้องได้ฉีดเป็นลำดับต้น ปัจจุบัน ขอให้ทุกคนมาฉีด ในอนาคต ถ้ามีวัคซีน ที่ฉีดให้เด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไปได้ มีความปลอดภัยสูง ไทยก็ต้องขยายเกณฑ์ให้บริการครอบคลุมไปถึงจุดนั้น
สำหรับแผนการฉีดวัคซีนของไทย มีพัฒนาการขึ้นเรื่อยๆ จากตอนแรกจะฉีดวัคซีนให้คนไทย 35 ล้านคน ใช้วัคซีน 70 ล้านโดส ขณะนี้ มองไปที่การฉีดวัคซีนให้ได้ 100 ล้านโดส ใน ปี 2564 แล้ว เพราะวัคซีน เข้ามาทันกับความต้องการ การบริหารจัดการมีควมคล่องตัวขึ้น และจากที่เราเคยจะฉีดให้ 2 เข็ม ปัจจุบัน ก็ฉีดไปถึงเข็ม 3 แล้ว เราต้องการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมที่สุดเท่าที่จะมีความเป็นไปได้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
