เลขาสมช.เตรียมหารือรอง ผอ.CIAสหรัฐฯ
เลขา สมช. เตรียมหารือกับ รอง ผอ.CIAสหรัฐฯ ระบุ พบ นายกฯ แลกเปลี่ยนข้อมูลความมั่นคงตามปกติ
พล.อ. สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงการนายเดวิด เอส โคเฮน รองผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลาง สหรัฐฯ หรือ CIAเข้าพบ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี เมื่อช่วงเช้า ว่า เป็นการพบเพื่อพูดคุยและแลกเปลี่ยน ข้อมูลข่าวสาร การทำงานที่ถูกต้อง รวมถึงแลกเปลี่ยนการทำงานที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน โดยเป็นการคุยภาพรวม เรื่องงานต่างประเทศและความมั่นคงของมิตรประเทศ โดยสหรัฐฯ ถือเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิด ให้ความร่วมมือในทุกด้านมาตลอดซึ่งหน่วยงาน CIA ก็เช่นกันที่จะมา พูดคุยและเปลี่ยนในเรื่องเหล่านี้
ส่วนจะมีวาระอะไรเป็นพิเศษหรือไม่นั้น ยังไม่ทราบเพราะยังไม่ได้ดูวาระที่มาพบกับนายกฯ แต่ตามปกติจะพูดคุยเรื่องความร่วมมือ และสิ่งที่จะก่อให้เกิดความมั่นคงในประเทศไทยรวมถึงความมั่นคงในกรอบภูมิภาคอาเซียน ซึ่งเรามีจุดยืน ที่กระทรวงการต่างประเทศได้กำหนดไว้ชัดเจนแล้ว อีกทั้งในช่วงบ่ายวันนี้(19พ.ย.) ตนเองก็จะได้พบหารือกับนายเดวิด เอส โคเฮน รองผอ. CIA สหรัฐฯ ด้วยเช่นกัน
พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวอีกว่า การประชุม ศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือศปก.ศบค.ในวันนี้เป็นการพิจารณาผ่อนคลายมาตรการในช่วงต้นเดือนธันวาคม. ขณะที่การผ่อนคลายเปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะได้มี ผู้แทนสมาพันธ์เข้ามาพบ และยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ซึ่งข้อเรียกร้องนั้นตรงกับข้อมูลของรัฐบาล ที่กำลังแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้อยู่โดยขอให้ทางรัฐบาลได้พิจารณาเลื่อนกำหนดเปิดผับ บาร์ คาราโอเกะ ให้เร็วขึ้น พร้อมเสนอมาตรการตามที่ ศบค. ต้องการว่ามีความพร้อมในการเปิดสถานประกอบการ โดยได้นำข้อมูลทั้งหมดเสนอไปยังนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีเจตนารมณ์?ที่เป็นห่วงทุกระบบ โดยมีการพูดถึงห่วงโซ่ที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งได้เน้นย้ำเสมอว่ากิจการที่เปิดนั้น เกี่ยวข้องกับประชาชนหลายส่วน เพียงแต่สถานการณ์ที่ผ่านมายังไม่เอื้ออำนวย ให้สามารถเปิดได้ในวันที่ 1 ธันวาคม ตามที่นายกรัฐมนตรี ได้ตั้งใจไว้ก่อนหน้านี้ จึงเป็นที่มาของการเลื่อนเปิดผับ บาร์ คาราโอเกะ ออกไป แต่เมื่อผู้ประกอบการได้รวมตัวกันแสดงความจำนงว่าจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และจะไปเตรียมการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ จะมีการนำข้อมูลไปหารือกับที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ครั้งต่อไป
ขณะที่แนวโน้มการเปิดผับ บาร์จะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจาก เงื่อนไขที่ผู้ประกอบการเสนอขึ้นมาเป็นเรื่องที่ดีมาก จะมีการเตรียมเรื่องความปลอดภัยของสถานที่ บุคลากร ระบบบริการต่างๆ และเตรียมเงื่อนไขสำหรับผู้ใช้บริการ ส่วนจะเลื่อนมาเร็วกว่าวันที่ 16 ม.ค.65 หรือไม่นั้นถ้าผู้ประกอบการมีความพร้อม โอกาสเปิดเร็วขึ้นก็จะมี แต่ขึ้นอยู่กับการประชุมของคณะกรรมการ ซึ่งแบ่งเป็น 2 ส่วน คือเลขาฯ สมช.เป็นรวบรวมข้อมูลพิจารณาในเบื้องต้น
และอีกส่วนเป็นที่ประชุมศบค.ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยร่วมพิจารณาร่วมกัน แต่ยืนยันว่า ในวันที่ 1 ธ.ค.นี้ จะยังไม่เปิดผับ บาร์ พร้อมมองว่าน่าจะยังไม่ทัน แต่ขอดูข้อมูลก่อน ส่วนจะเปิดเมื่อไหร่ต้องขอดูสถานการณ์ข้อมูลในภาพรวม แต่ทราบถึงความเดือดร้อนของผู้ประกอบการ โดยนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำให้แก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ของทุกภาคส่วน ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมข้อมูลอีกครั้งก่อนส่งให้ศบค.พิจารณาในวันที่ 1 ธ.ค.นี้
สำหรับ การผ่อนคลายมาตรการต่างๆ จะสอดคล้องกับมาตรการการเปิดประเทศ ซึ่งขณะนี้มีการผ่อนคลายมาตรการไปแล้วเกือบทั้งหมด แต่เป็นการผ่อนคลายแบบมีเงื่อนไข ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้ชื่นชมถึงความร่วมมือของภาคประชาชน ส่วนจะผ่อนคลายประเทศที่จะเดินทางเข้าไทยเพิ่มเติมนั้น จะมีการพิจารณาผ่อนคลายประเทศเพิ่มเติมในวันที่ 1 ธ.ค.นี้
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news