นายกฯ นำครม.ลอยกระทง อธิษฐานให้บ้านเมืองปลอดภัย ขอขมาลาโทษสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ภัยผ่านพ้นไปจากประเทศ-มีเสถียรภาพลดความขัดแย้ง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา เป็นประธานในงาน “ลอยกระทงวิถีใหม่ สืบสานประเพณีไทย 1 ครอบครัว 1 กระทง รักษาระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ปลอดโรค ปลอดภัย” โดยมีคณะรัฐมนตรี (ครม.) และคู่สมรส รวมงาน โดยนายกฯได้ชมนิทรรศการองค์ความรู้ สาระคุณค่า และข้อปฏิบัติสำหรับเทศกาลประเพณีลอยกระทงในช่วงการแพร่ระบาดโควิด 19 จากนั้น? ชมการแสดงชุดสายน้ำแห่งวัฒนธรรม โดยสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ก่อนที่นายกรัฐมนตรี?และภริยา ได้ร่วมลอยกระทง และชมการจำลองวิถีชีวิตตลาดน้ำ
สำหรับการจัดงานลอยกระทงในปีนี้ เนื่องจากสถานการณ์โควิด ผู้เข้าร่วมงานต้องฉีดวัคซีนอย่างน้อย 2 เข็ม และได้ตรวจ ATK ก่อนร่วมงาน โดยต้องแสดงผลการตรวจของสถานพยาบาล ผลการตรวจต้องไม่เกิน 72 ชั่วโมง หรือสามารถมาตรวจได้ที่จุดคัดกรองภายในงาน นอกจากนี้ภายในงานยังเข้มมาตรการกระทรวงสาธารณสุข มีจุดตรวจอุณหภูมิ จุดลงทะเบียนไทยชนะ และจุดบริการเจลแอลกอฮอล์ก่อนเข้างานและออกงาน ทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา นอกจากนี้ยังเข้มระบบการดูแลรักษาความปลอดภัยบริเวณพื้นที่โดยรอบ มีการปิดถนนเลียบคลองผดุงกรุงเกษมตั้งแต่แยกยูเอ็น ไปจนถึงแยกนางเลิ้ง
จากนั้นภายหลังเสร็จสิ้นพิธีลอยกระทง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ได้อธิษฐานให้บ้านเมืองปลอดภัย ขอขมาลาโทษพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ สังฆคุณ และพระแม่คงคา และแผ่นดิน อิติปิ โส ภะคะวา เรื่องขอขมามีคาถาอยู่แล้ว ในเรื่องการลอยกระทง การขอขมาลาโทษสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย เทวดาที่คุ้มครองประเทศชาติ รวมถึงตัวเองด้วย ภัยต่างๆ ให้ผ่านพ้นไปจากประเทศไทย และให้ทุกอย่างมีเสถียรภาพทุกเรื่อง ลดความขัดแย้งให้มากที่สุดนะจ๊ะ”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรี จะย้ายไปอยู่พรรคใหม่ที่ 6 รัฐมนตรีตั้งขึ้นตามกระแสข่าวใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี? ส่ายหัวแทนคำตอบ ก่อนขึ้นรถและชี้ให้ดูหน้าจอบนรถที่กำลังออกข่าวนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาตอบโต้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เรื่องการใช้รถทหารมาขนส่งสินค้าช่วยประชาชนแทนรถบรรทุก
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news