Home
|
ข่าว

นายกฯ ย้ำกลไกพหุภาคีนิยม และแนวทาง 5P

Featured Image
นายกฯ ย้ำกลไกพหุภาคีนิยม และแนวทาง 5P เพื่อความกินดีอยู่ดีของประชาชน การพัฒนาที่ยั่งยืน และร่วมกันก้าวผ่านวิกฤตต่างๆ ของโลก ในพิธีเปิด ASEM 13

 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถ้อยแถลงในฐานะผู้ประสานงานกลุ่มอาเซียน สำหรับพิธีเปิดการประชุมผู้นำเอเชีย – ยุโรป ครั้งที่ 13 (The 13th ASEM Summit: ASEM13) ผ่านระบบการประชุมทางไกล

 

โดยนายกรัฐมนตรีกัมพูชาในฐานะเจ้าภาพได้กล่าวถึงการประชุมภายใต้หัวข้อหลักคือ “Strengthening Multilateralism for Shared Growth” ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์ภายหลังโควิด-19 ที่ต้องมุ่งสร้างพหุภาคีนิยมที่เข้มแข็งและยั่งยืน การประชุมครั้งนี้จะเป็นโอกาสให้ผู้นำยืนยันถึงความสำคัญของการเป็นหุ้นส่วนของทั้งสองภูมิภาค ส่งเสริม ASEM ในเวทีโลก เพื่อรับมือกับประเด็นระหว่างประเทศ ซึ่งกัมพูชายืนยันให้ความสำคัญกับการรักษาความร่วมมือในกรอบ ASEM

 

นายกรัฐมนตรีได้กล่าวยินดีในโอกาสครบรอบ 25 ปีของการจัดตั้งการประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป หรือASEM ซึ่งถือกำเนิดขึ้นในภูมิภาคอาเซียนที่กรุงเทพมหานคร จากหัวข้อหลักของการหารือเรื่อง “การเสริมสร้างพหุภาคีนิยมเพื่อการเติบโตร่วมกัน” ไทยเชื่อมั่นว่าพหุภาคีนิยมเป็นหัวใจสำคัญของความร่วมมือที่จะนำพาโลกผ่านพ้นวิกฤตต่าง ๆ ซึ่งความร่วมมือพหุภาคีไม่ใช่แค่การมารวมตัวกันเพื่อหารือ แต่ต้องมีความร่วมมือที่จับต้องได้บนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมของประเทศสมาชิก ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีจึงได้นำเสนอความร่วมมือ 5 ด้านตามแนวทาง 5P ของวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 ของสหประชาชาติ ดังนี้

ประการที่ 1 People ต้องสร้างความมั่นคงให้แก่ประชาชน ASEM กว่าสี่พันล้านคน ทั้งในด้านสุขภาพ ความกินดีอยู่ดี และความปลอดภัยในชีวิต

ประการที่ 2 Partnership เสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนที่เท่าเทียมระหว่างกัน บนพื้นฐานความเชื่อใจ เคารพซึ่งกันและกัน และมีผลประโยชน์ร่วมกัน

ประการที่ 3 Peace ความร่วมมือระหว่างกันของ ASEM จะต้องเสริมสร้างบรรยากาศความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่เอื้อต่อสันติภาพ และป้องกันไม่ให้เกิดการแข่งขันหรือความขัดแย้ง

ประการที่ 4 Prosperity ต้องเติบโตร่วมกัน โดยยึดมั่นในระบบการค้าพหุภาคีบนกฎกติกาขององค์การการค้าโลก

ประการที่ 5 Planet ต้องร่วมมือกันรักษาโลกใบนี้ โดยใช้แนวทางการสร้างสมดุลในการพัฒนา เพื่อให้ทุกประเทศสามารถบรรลุเป้าหมายวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนภายในปี ค.ศ. 2030

ในตอนท้ายนายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความหวังว่า การประชุมครั้งนี้จะส่งเสริมการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความคิด เพื่อโลกที่มีความสมดุล สงบ สันติ มั่งคั่ง และยั่งยืน

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

 

 

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube