นายกฯเตรียมประชุม ศบค.ชุดใหญ่ คาดปรับลดโซนสี พร้อมขยายพรก.ฉุกเฉินออกไปอีก 2 เดือน ผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศเพิ่มขึ้น อำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว ลุ้นเปิดสถานบันเทิง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด -19 หรือ ศบค. เป็นประธานการประชุมศบค.ชุดใหญ่ พร้อมด้วยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะผอ.ศบค.ส่วนหน้า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
สำหรับวาระที่น่าสนใจในวันนี้ จะมีการพิจารณาปรับลดพื้นที่โซนสี ซึ่งมีรายงานข่าวว่าจะไม่มีพื้นที่สีแดงเข้ม ซึ่งเดิมมีอยู่ 6 จังหวัด ประกอบด้วย ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา นครศรีธรรมราช และตาก แต่จะมีการปรับโซนสีในระดับอื่นๆเพิ่มเติมพร้อมจะมีการพิจารณาขยายพ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะมีการเสนอให้ขยายไปอีก 2 เดือน เพื่อให้คร่อมในช่วงเทศกาลปีใหม่ไปก่อน ซึ่งเดิมจะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ โดยให้ต่อขยาย มีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 31ม.ค. 2565
ขณะเดียวกัน จะมีการหารือเรื่องการเปิดประเทศในระยะที่ 2 ซึ่งกำหนดว่าหลังเดือนธันวาคม จะมีการผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศเพิ่มขึ้น เพื่อให้มีความสะดวก เช่น การใช้การตรวจ ATK เมื่อมาถึงประเทศแล้วแทนการทำ RT-PCR เมื่อถึงประเทศ ซึ่งเป็นไปตามมติคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ
ด้านศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศบค.ส่วนหน้า จะรายงานผลการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านการท่องเที่ยวและกีฬา หรือ ศปก.ด้านการท่องเที่ยว โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. จะรายงานผลการดำเนินงานและแผนการเปิดประเทศ รวมถึงการจัดหาเว็บไซต์หลักของประเทศไทย (www.thailand.go.th) และกระทรวงแรงงาน จะรายงานสถานการณ์แรงงานในประเทศ และความก้าวหน้า ในการนำแรงงานเข้าประเทศ
อย่างไรก็ตามยังต้องจับตาการพิจารณาผ่อนคลายเปิดกิจการสถานบันเทิง ผับ บาร์ เนื่องจากมีการยื่นหนังสือรวมไปถึงมีการเสนอแนวทางการเปิดกิจการมายังศปก.ศบค.ก่อนหน้านี้ เพื่อให้สามารถเปิดดำเนินกิจกรรมกิจการเร็วว่ามติเดิมของศบค. ที่มีการเลื่อนออกไปให้เปิดดำเนินกิจการได้ในวันที่ 16 มกราคม 2565
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news