“จุลพันธ์” แนะ”ไพบูลย์” รักษาองค์ประชุมไม่ได้ให้ไปบอกนายกฯยุบสภาดีกว่า เย้ยไม่เข้าใจกลไก ก็ขอให้กลับไปอยู่สภาสรรหาเหมือนเดิม
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ระบุจะติดตามการเข้าร่วมเป็นองค์ประชุมของฝ่ายค้านในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรทุกครั้งหลังจากนี้ และนำรายชื่อผู้เข้าร่วมเป็นองค์ประชุมของฝ่ายค้านมาเปิดเผยต่อสาธารณะ ว่า สมาชิกบางคนอาจจะไม่เข้าใจเรื่องระบบสภา เพราะพึ่งเคยเป็นส.ส.ครั้งแรก และเคยอยู่ในสภาอื่นที่ไม่ได้รับการเลือกตั้งในอดีตก็เลยไม่เข้าใจว่าเรื่องขององค์ประชุม เป็นเรื่องที่เปิดเผยทั่วไปอยู่แล้ว
ซึ่งในส่วนของปัญหาองค์ประชุมที่เกิดขึ้นในสภาฯจะมาขอความร่วมมือกับฝ่ายค้าน มองว่าฝ่ายค้านไม่ได้มีหน้าที่เป็นองค์ประชุม ให้ฝ่ายรัฐบาล แต่จะทำหน้าที่ ลงมติกฎหมายอย่างถูกต้อง ถ้าฝ่ายรัฐบาลครบองค์ประชุมแล้วฝ่ายค้านก็ทำหน้าที่ต่อ คือการทำงานของฝ่ายค้าน ที่ได้ประกาศไว้อย่างชัดเจน เพราะอยากเห็นการทำงานของรัฐมนตรีที่ให้ความใส่ใจต่อสภาฯ อยากเห็นการทำงานของ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลที่เข้มงวดกวดขันกว่าที่เคยเป็น
ที่ผ่านมาถ้าไม่มีฝ่ายค้านกฎหมายหลายฉบับก็ผ่านไม่ได้เพราะองค์ประชุมไม่ครบ ล่าสุดนั้นเห็นว่ามีรัฐมนตรีมาร่วมเป็นองค์ประชุม นี่คือความสำเร็จของฝ่ายค้านที่ดึงรัฐมนตรีมาร่วมเป็นองค์ประชุมในสภาได้ จริงๆแล้วฝ่ายรัฐบาลควรขอบคุณฝ่ายค้านด้วยซ้ำ
ดังนั้น ถ้าจะมาร้องว่าทำไมฝ่ายค้านไม่มาร่วมเป็นองค์ประชุมให้ ขอให้วิ่งไปบอก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ยุบสภาดีกว่า ถ้าเกิดไม่สามารถรักษาองค์ประชุมได้ พร้อมยืนยันว่าไม่เข้าใจฝ่ายค้านผิดแน่นอน เพราะนี่คือกลไกของสภา ถ้าหากใครไม่เข้าใจก็ขอให้กลับไปอยู่สภาสรรหาเหมือนเดิม อย่ามาอยู่ในสภาผู้แทนราษฎรเพราะนี่คือกลไกการตรวจสอบ ฝ่ายค้านมีเสียงข้างน้อยจะให้โหวตให้ชนะเป็นไปได้ยากแต่สามารถใช้กลไกสภาฯในการบีบให้การทำงานของรัฐบาลเป็นประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด
นอกจากนั้นนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ พร้อมนางสาวทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.เชียงใหม่พรรคเพื่อไทย และ นายแพทย์สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.ชัยภูมิ ยังร่วมกันแถลงข่าวถึงกรณีที่มีชาวบ้าน ต.หนองหอย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นายสุทัศน์ บุญเปิง อายุ 89 ปี ป่วยเส้นเลือดในสมองแตก แต่ถูก โรงพยาบาล ตามสิทธิบัตรทองและ โรงพยาบาลอีกหลายแห่งในจังหวัดเชียงใหม่ปฏิเสธรักษาอ้างเตียงเต็ม จนต้องส่งตัวไปรักษาไกลกว่า 150 กม. จนสุดท้ายเสียชีวิต
โดยนายแพทย์สุรวิทย์ ในฐานะที่ปรึกษากรรมาธิการการสาธารณสุข(กมธ.สธ.) กล่าวว่า กรณีนี้เป็นที่น่าสะเทือนใจ แสดงให้เห็นว่าระบบการจัดการสาธารณสุขล้มเหลวทั้งเรื่องของโครงการผู้ป่วยฉุกเฉินรักษาใกล้บ้าน รวมถึงโครงการบัตรทอง พร้อมเชื่อว่าถ้าหากมีการบริหารจัดการที่ดีกว่านี้ ผู้ป่วยคนดังกล่าวคงไม่เสียชีวิต
ด้านนายจุลพันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่าพรรคเพื่อไทยเคยเตือนไปยังรัฐบาลแล้ว ถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในจังหวัดเชียงใหม่ว่าจะมีความรุนแรงขึ้น ขอให้เร่งหาทางแก้ไขปัญหาจนวันนี้สถานการณ์เริ่มน่าห่วงโดยเฉพาะยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 แม้ว่าลำดับจะลดแต่ในทางจำนวนยังคงมากอยู่ ทั้งนี้หากรัฐบาลยังคงนิ่งเฉย พรรคเพื่อไทยคงต้องใช้กลไกสภาดำเนินการ ทั้งนี้จะส่งเรื่องให้ กมธ.สธ. รับเรื่องไปติดตามแก้ไขต่อไป
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news