Home
|
ข่าว

นายกฯสั่งทุกหน่วยเฝ้าระวังโควิดกลายพันธุ์แอฟริกา

Featured Image
นายกฯมอบ สาธารณสุข ความมั่นคง คมนาคม ท่องเที่ยว ติดตามโควิดกลายพันธุ์แอฟริกา เฝ้าระวังการเดินทางช่วงเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว

 

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้รับทราบกรณีที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ B.1.1.529 ที่พบในแอฟริกาใต้ว่าเป็นสายพันธุ์ที่อาจแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วมากกว่าสายพันธุ์อื่น และ WHO ตั้งชื่อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์นี้ว่า ออมิครอน (Omicron) ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้หน่วยงานทั้งด้านสาธารณสุข ความมั่นคง คมนาคม และการท่องเที่ยว ให้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดในต่างประเทศอย่างใกล้ชิด พร้อมวางมาตรการเฝ้าระวังที่เข้มงวด เพราะแม้การแพร่ระบาดจะยังไม่เกิดในประเทศไทย แต่ขณะนี้ไทยก็อยู่ในช่วงการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจต้องร่วมกันดูแลไม่ให้ไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าวเข้ามายังประเทศไทย

ขณะเดียวกัน ภายหลังรัฐบาลมีนโยบายเปิดประเทศ ได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะจากสหรัฐฯ ยุโรป นายกรัฐมนตรี ขอให้ทั้งหน่วยงานสาธารณสุข ความมั่นคง คมนาคม ท่องเที่ยว ติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด มีการกำชับผู้ปฏิบัติงานด่านหน้า ให้ปฏิบัติตามมาตรการการคัดกรองที่เข้มงวด เพื่อความปลอดภัยของประชาชนในประเทศและสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคการท่องเที่ยวของไทยด้วย

ทั้งนี้ รายงานของกรมควบคุมโรค ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 1-25 พ.ย. 64 มีผู้เดินทางจากต่างประเทศเข้ามายังประเทศไทยผ่านทางท่าอากาศยาน 5 แห่ง ประกอบด้วย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ หัวหิน ภูเก็ต และสมุย รวมแล้ว 104,065 คน โดยเป็นผู้เดินทางในกรณี Test&Go จำนวน 81,270 คน กรณีตามโครงการ Sandbox จำนวน 18,360 คน และกรณีกักตัว(Quarantine) จำนวน 4,435 คน

พบผู้ที่ตรวจ RT-PCR แล้วมีผลเป็นบวก 135 คน คิดเป็นอัตรา 0.13% ของผู้เดินทางจากต่างประเทศมายังประเทศไทยทางอากาศทั้งหมด โดยเมื่อแยกตามการเดินทางเข้าประเทศไทยในแต่ละกรณีพบว่า กรณี Test&Go มีอัตราการพบเชื้อต่ำที่สุด 0.08% กรณี Sandbox พบเชื้อ 0.20% และกรณี Quarantine พบเชื้อ 0.81%

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube