นายกรัฐมนตรี มอบฝ่ายเศรษฐกิจดูมาตรการช่วยเหลือประชาชน ช่วง 2 เดือนโควิดระบาด โวรัฐบาลยังมีเงินพอ โต้เก็บภาษีคนละครึ่ง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิค-19 ว่า ได้มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสภาพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ ไปพิจารณาว่าจะช่วยเหลืออย่างไรในช่วง 2 เดือนนี้
ส่วนมาตรการที่ช่วยเหลือเดิมอยู่แล้ว ก็ต้องยืดระยะเวลาออกไป เช่น โครงการเที่ยวด้วยกัน ที่มีการจ่ายค่ามัดจำที่พักไปแล้ว ก็ขอให้ยืดระยะเวลา โดยเบื้องต้น ได้มีการปรึกษาหารือกับผู้ประกอบการแล้ว โดยย้ำว่า จะต้องช่วยเหลือประชาชนทุกคนให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ไม่ใช่เฉพาะบางพื้นที่ ซึ่งมาตรการต่างๆที่จะออกมาต้องใช้เงินอีกจำนวนมาก และยืนยันว่า ขณะนี้รัฐบาลยังมีเงินเพียงพออยู่
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความสับสนเกี่ยวกับโครงการคนละครึ่งที่มีการเผยแพร่ว่ามีการเก็บภาษีของผู้ที่ได้รับสิทธิ์ โดยระบุว่า ไม่ทราบว่าข้อมูลดังกล่าวมาจากไหน เพราะรัฐบาลออกมาตรการมาก็เพื่อช่วยเหลือแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน จะไปเก็บภาษีได้อย่างไร ดังนั้น จึงขอความร่วมมือให้ทำความเข้าใจให้ดี เพราะวันนี้ต้องร่วมมือกัน และมีความเข้าใจตรงกันว่าวันนี้ กำลัง “รวมไทยสร้างชาติ ร่วมต้านโควิด 19” แล้วขอให้คำนึงเสมอว่าคำนี้มีความสำคัญอย่างไร ต้องสร้างชาติให้เข้มแข็ง มั่นคง ยั่งยืน และคิดว่าจะอยู่กับโควิดได้อย่างไร โดยการระวังตัวเอง ซื่อสัตย์ต่อตนเอง ในการเข้าตรวจคัดกรอง
พร้อมกันนี้ ยังยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้มุ่งหวังที่จะลงโทษใครทั้งสิ้น นอกจากจะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย เพราะฉะนั้นคนทุกต้องไม่ต้องปิดบังว่าไปไหนมาบ้าง โดยขอให้เปิดเผยกับเจ้าหน้าที่ ไม่เช่นนั้นจะเป็นการแพร่ระบาดในสถานที่คัดกรองซ้ำอีก พร้อมขอให้รับผิดชอบคนอื่น ขอให้สงสารเจ้าหน้าที่หน้างาน แพทย์ หมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่ ทำงานไม่ได้หลับไม่ได้นอน ไม่ได้กลับบ้านกลับช่อง ซึ่งตนเองก็เป็นห่วง หากไม่ร่วมมือและปกปิดอำพรางกันอยู่แบบนี้ ก็แก้อะไรไม่ได้ และย้ำว่าการจะทำให้ประชาชน 60 ล้านคน เป็นไปในทิศทางเดียวกันคือต้องฟังมาตรการของรัฐซื่อสัตย์ต่อตนเอง ซื่อสัตย์ต่อครอบครัว และสังคมช่วงเวลานี้ต้องการสิ่งใดมากที่สุด