Home
|
ข่าว

เพื่อไทยอัดรัฐคนจนเพิ่ม5แสนราย คือความล้มเหลว

Featured Image
เพื่อไทยอัดรัฐคนจนเพิ่ม5แสนราย คือความล้มเหลว เตือนอย่าโยนโควิด กระทบหนี้ครัวเรือน ฉุดเศรษฐกิจไทยซึมลึก

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และ ผอ.ศูนย์นโยบายพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวถึงกรณีสภาพัฒน์ฯชี้แจงกรณีคนจนเพิ่มขึ้น 5 แสนคนในปี 63 ว่า

1. จากความล้มเหลวในด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล พรรคเพื่อไทยไม่แปลกใจที่ตัวเลขคนจนปี 63 เพิ่มขึ้น แต่แปลกใจในมุมมองของหน่วยงานภาครัฐที่ว่าคนจนน้อยกว่าคาดเพราะได้เงินรัฐเยียวยา เราไม่ควรพึงพอใจกับสิ่งเหล่านี้ ต่อไปก็กู้มาแจก แจกจนคนพ้นเส้นความยากจนทุกคน แต่ประเทศเป็นหนี้ แล้วพึงพอใจว่าแก้จนได้อย่างนั้นหรือ

2. ตัวเลขคนจนที่เพิ่มขึ้นถึง 5 แสนคนนั้น น่าเป็นห่วง เพราะเพิ่มจากปีก่อนหน้าถึง 11.6% สะท้อนความรุนแรงของวิกฤต

3. คนจนที่เพิ่มขึ้น 5 แสนคนนั้น เป็นตัวเลขปี 63 ซึ่ง “ยังไม่ได้สะท้อน” ผลกระทบของปี 64 ที่สาหัสกว่าปี 63

4. อย่าโทษว่าคนจนเพิ่มเพราะโควิด เพราะรัฐบาลปัจจุบัน และ คสช. ทำคนจนเพิ่มก่อนจะมีโควิดด้วยซ้ำ เปรียบเทียบกับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่แก้จนสำเร็จ ทำให้คนจน “ลดลงเฉลี่ย 6.9% ต่อปี”

5. คนจนที่เพิ่มขึ้นนั้น ส่งผลต่อปัญหาหนี้ ซึ่งได้สะท้อนในตัวเลขหนี้ครัวเรือน และที่น่ากังวลคือหนี้นอกระบบ ที่ปัจจุบันเพิ่มจากปี 62 ถึง 52% นี่คือปรากฎการณ์ “หนี้ในระบบไหลสู่หนี้นอกระบบ”ซึ่งตรงนี้อันตราย แก้ยาก และส่งผลกระทบซึมลึกต่อเศรษฐกิจไทย

6. พรรคเพื่อไทยแปลกใจ และกังวลใจต่อคำให้สัมภาษณ์ตามข่าวที่ว่า บัตรคนจนสามารถเป็นนโยบายระยะยาวต่อเนื่องไปได้ พรรคเพื่อไทยเห็นว่านโยบายในลักษณะล่อคนด้วยเงิน ในระยะยาว”บัตรคนจน” ควรจะถูกแทนที่ด้วย “บัตรสร้างงาน” เพราะการสร้างงานเท่านั้นคือคำตอบการแก้จน ต้องเปลี่ยนการแจกเงินเป็นการแจกงาน

7. นโยบาย “1 ข้าราชการ 1 ครัวเรือนยากจน” ของรัฐบาลนั้น เลียนแบบมาจากนโยบายแก้จนแบบตรงจุด (TPA) ของจีน ปัญหาคือเราไปจำของเขามาพูด โดยที่ไม่เข้าใจว่าต้องคิดให้ครบทั้งระบบ ซึ่งต้องคิดให้ครบวงจร เชื่อมนโยบายระดับ Macro กับ Micro ให้ผสานกัน ต้องคิดให้ครบทั้งระบบแบบนี้ ไม่ใช่จำเขามาพูดเป็นท่อนๆ

 

 

 

 

 

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

  • Tiktok
  • Youtube
  • Youtube