“ปิยบุตร”ค้านคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญคดีล้มล้างการปกครอง ชี้ กระบวนการพิจารณาที่ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ถูกร้องได้ชี้แจง แสดงพยานหลักฐานอย่างเพียงพอ
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า แถลงข่าวถึงกรณีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญคดีล้มล้างการปกครอง ภายหลังจากที่มีการเผยแพร่คำวินิจฉัยฉบับเต็ม ว่าไม่เห็นด้วย พร้อมตั้งข้อสังเกตในหลายประเด็นต่อคำวินิจฉัยดังกล่าว คือ
1.การดำเนินกระบวนการพิจารณาที่ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ถูกร้องได้ชี้แจง แสดงพยานหลักฐานอย่างเพียงพอ
2.การนำการกระทำอื่นที่ไม่ใช่ “วัตถุแห่งคดี” มาวินิจฉัย
3.การเขียนคำวินิจฉัยที่ไม่ตรงตามข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์รัฐธรรมนูญ
4.การอ้างหลักเสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพอย่างไม่ถูกต้อง
5.การให้เหตุผลอย่างไม่สมเหตุสมผลว่าข้อเสนอบางข้อนำไปสู่การล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
6.การออกคำบังคับเกินอำนาจ
ด้วยเหตุผลทั้ง 6 ข้อนี้ ตนจึงมองว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนี้ มีปัญหา คือการไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ อีกทั้งยังย้ำว่าคำวินิจฉัยที่จะเด็ดขาดและผูกพันทุกองค์กรได้นั้น ต้องชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เพราะถ้าหากไม่เป็นเช่นนั้น ศาลก็จะสามารถวินิจฉัยอะไรก็ได้อย่างนั้นหรือ และหากเป็นแบบนี้รัฐธรรมนูญ ก็จะขยายขอบเขตอำนาจมากขึ้น จนกลายเป็นรัฐธรรมนูญเสียเอง
นายปิยบุตรยังฝากข้อเสนอแนะไปยังกลุ่มสนับสนุนให้มีการปฏิรูปสถาบันฯหลังมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญคดีล้มล้างการปกครอง ฉบับเต็มว่า จำเป็นต้องปรับวิธีการรณรงค์เรียกร้องใหม่ ไม่ใช่ห้าม หรือจำกัดสิทธิเสรีภาพ แต่ต้องปรับให้เข้ากับสถานการณ์ ข้อเรียกร้องทั้งหมดไม่ได้รับการตอบสนอง หากยังใช้วิธีเดิมเหมือนเป็นการ”เดินเอาหน้าชนกำแพง” จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือของสถาบันการเมืองต่างๆ ,ผู้ถืออำนาจรัฐต่างๆด้วย รวมถึงข้อเสนอนั้นจะทำอย่างไรให้ฝ่ายอนุรักษ์นิยมยอมถกเถียงด้วยเหตุและผลมากขึ้น
พร้อมฝากไปถึง ส.ส. รวมถึงพรรคการเมืองต่างๆ ว่าบทบาทในการสร้างการเมืองขึ้นมาย่อมมีความสำคัญในฐานะผู้นำวาระสู่สังคม ข้อแตกต่างครั้งนี้จะผ่อนหนักเป็นเบาได้หากพรรคการเมืองนำข้อเสนอเหล่านี้ไปผลักดัน บางส่วนก็ยังดี
ส่วนข้อเสนอที่ฝากไปถึงฝ่ายอนุรักษ์นิยม นั้นตนอยากให้เปิดใจมากกว่าเดิม เข้าใจว่าความคิดไม่เหมือนกับคนรุ่นใหม่ อาจจะไม่เคยเห็นคนรุ่นใหม่แสดงออกขนาดนี้จนนำไปสู่ความเกลียดชัง อยากให้ใช้ความเมตตาธรรมเปิดพื้นที่ให้กับทุกรุ่นทุกวัย หวั่นจะเป็นการปะทะระหว่างรุ่นในอนาคต อีกทั้งไม่สามารถไล่ใครออกจากประเทศได้
การยุบสภานั้นจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีหน้า แต่สิ่งสำคัญคือพรรคพลังประชารัฐจะสามารถประคองความขัดแย้งที่เกิดขึ้นไปได้มากน้อยแค่ไหน กฎหมายสำคัญยังไม่เข้าสภาเลยซึ่งหากเสียงแตกก่อนเกรงจะกระทบต่อสถานะต่อรัฐบาลได้ ส่วนประเด็นที่เกี่ยวกับการชุมนุมนั้น ต้องยอมรับว่าการชุมนุมทุกที่มีขึ้นมีลงเปลี่ยนไปตามสถานการณ์
ตนอยากให้น้องๆทุกคนที่ถูกคุมขัง ได้ออกมาข้างนอกก่อน การจับกุมไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย และตนเชื่อว่าตลอด 1 ปีกว่าที่ผ่านมา สิ่งที่ผู้ชุมนุมเจอมาประกอบกับความเหนื่อยล้าถ้าออกมาก็คงไปใช้ชีวิตตามปกติ ปล่อยออกมาเถอะ ศาลเองก็ไปวางเงื่อนไขเอาภายหลัง ไม่ต้องกังวลเกินไปว่าปล่อยออกมา แล้วจะมาชุมนุมอีก
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news