“ยุทธพงศ์” ฉะแอพหมอชนะใช้ไม่ได้ผล ตามนักท่องเที่ยวแอฟริกาไม่ได้ จี้รัฐต้องคุมแพร่ระบาดโอไมครอนให้ได้ หวั่นเกิดระลอก 4กระทบประชาชนวงกว้าง
นายยุทธพงศ์ จรัสเถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทยและรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการแพร่ระบาดไวรัสโอไมครอน ว่า ทางศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือศบค.แจ้งแล้วว่ามีการแพร่ระบาดของไวรัสโอไมครอนทั่วโลกกว่า 39 ประเทศ รวมถึงองค์การอนามัยโลกหรือ WHO ได้เตือนประเทศในเอเชียแปซิฟิกให้พร้อมรับไวรัสมือโอไมครอนให้เตรียมระบบสาธารณสุขเพื่อรองรับการระบาดให้เพียงพอ และเร่งฉีดวัคซีนให้ประชากร
ซึ่งขณะนี้ประเทศสิงคโปร์และมาเลเซียได้พบผู้ป่วยโอไมครอนแล้ว ซึ่งประเทศไทยอาจเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบด้วย โดยประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงจากแอฟริกาทั้งหมด 333 ราย และมาจากประเทศอื่นที่มีความเสี่ยงต่ำอีก453 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขที่เข้ามาในประเทศไทยระหว่างวันที่ 15-27 พ.ย.ที่ผ่านมา รวมทั้งสองกลุ่ม 786 ราย
แต่ปรากฏว่าทางรัฐบาลได้มีการสั่งปิดไม่ให้รับนักท่องเที่ยวจาก8 ประเทศกลุ่มเสี่ยงเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ที่ผ่านมาแต่ปรากฏว่าที่เข้ามาก่อนหน้านี้ตามตัวมาตรวจ RT-PCR ได้เพียง 44 คน จาก 786 คน ซึ่งตามได้เพียง 44 คนทำให้เห็นว่าแอปพลิเคชันหมอชนะที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาจะต้องดาวน์โหลดนั้น มองว่าแอปพลิเคชันมีปัญหาเนื่องจากไม่สามารถตามตัวนักท่องเที่ยวได้ ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดไวรัสโอไมครอนในประเทศไทยได้เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวจากแอฟริกาเข้ามาถึง 786 คน
โดยนายยุทธ์พงศ์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการฉีดวัคซีน พบว่ายอดเข็มที่หนึ่งในวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมาฉีดได้ 48,732,951 คน คิดเป็นร้อยละ 67.70% ของประชากรทั้งประเทศ,เข็มที่สองฉีดได้ 41,979,486 คน คิดเป็น 58.3% ของประชากรทั้งประเทศ และเข็มที่สามฉีดได้ 3,567,811 คน คิดเป็น 5.0% ของประชากรทั้งประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นว่ายอดการฉีดวัคซีนที่กำหนดมาตรฐานไว้ร้อยละ 70 ของประชากรทั้งประเทศยังถือว่าต่ำมาก ถ้าเทียบกับการฉีดวัคซีนครบสองเข็ม ซึ่งมองว่าเป็นสถานการณ์ที่น่าวิตกกังวล
เนื่องจากการฉีดวัคซีนของเรายังต่ำกว่าเป้า ซึ่งสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดในประเทศไทยยังไว้วางใจไม่ได้ และขณะนี้เป็นช่วงที่มีอากาศหนาวเย็นและมีงานสังสรรค์เยอะจึงต้องมีความระมัดระวัง ทางพรรคเพื่อไทยได้มีข้อห่วงใยฝากไปถึงทางรัฐบาล ว่า จะต้องควบคุมสถานการณ์การระบาดไวรัสโอไมครอนให้ดี เนื่องจากไวรัสโอไมครอนหากเข้ามาแล้วควบคุมไม่ดี อาจจะเกิดโควิดระลอกที่ 4 ซึ่งจะทำให้กระทบต่อเศรษฐกิจ, ประชาชน และการท่องเที่ยว ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในสถานการณ์ที่กำลังมีการเปิดประเทศ
นายยุทธพงศ์ จรัสเถียรยังกล่าวถึงกรณีการใช้เงินในโครงการประกันราคาข้าวของรัฐบาลปัจจุบัน ว่ารัฐบาลปัจจุบันมีนโยบายในเรื่องของการประกันรายได้ ซึ่งรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ดำเนินโครงการนี้ได้ 3 ปีแล้ว โดยปีแรกการผลิตปี2562/63 ใช้เงินทั้งหมด 21,495.74 ล้านบาท มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 3.9 ล้านครัวเรือน ปีที่สองปีการผลิต 2563/64 ใช้เงินทั้งสิ้น 56,646.2 ล้านบาทมีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 4.68 ล้านครัวเรือน และปีที่สาม ปีการผลิต 2564/65 ใช้เงินทั้งสิ้น 89,402 ล้านบาทมีเกษตรกรร่วมโครงการ 4.69 ล้านครัวเรือนซึ่งปัญหา คือ มีการทะลุวินัยทางการเงินการคลังและตัวเลขเห็นได้ชัดว่ามีการใช้เงินที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลขณะเดียวกันจำนวนเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการใกล้เคียงกับเมื่อปีที่แล้วแต่เงินที่ใช้เพิ่มขึ้นไปกว่าเท่าตัว
ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ เคยระบุว่า ขอเวลา 5 ปีในการแก้ไขปัญหาราคาข้าวให้กับชาวนาแต่ปรากฏว่า 5 ปีผ่านไปราคาข้าวเหลือกิโลละ 5 บาทแสดงให้เห็นว่าราคาข้าวตกต่ำลงเรื่อยๆทุกปี โดยพล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรี ระบุว่าในปี 2565/66 รัฐบาลจะเปลี่ยนแปลงนโยบายเกี่ยวกับเรื่องข้าวเนื่องจากการใช้เงินประกันรายได้ใช้เงินมหาศาล รัฐบาลไม่มีเงินแล้ว ซึ่งตนในฐานะส.ส.ภาคอีสาน อยากจะถามว่าแล้วนโยบายใหม่รัฐบาลจะทำอย่างไรต้องประกาศแล้วเนื่องจากเหลือไม่กี่วันจะเข้าปี 2565 แล้วรวมถึงรัฐบาลจะช่วยเหลือชาวนาอย่างไรในการเปลี่ยนวิธีการที่จะประกันรายได้
และเรื่องการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานครหลังจากเลือกตั้งนายกอบต.และสมาชิกอบต.ผ่านไปแล้ว ว่า มีเสียงเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานคร เนื่องจากพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมืองผู้ว่ากทม. มาจากคำสั่ง ม.44 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 ต.ค.59 จนถึงขณะนี้เป็นผู้ว่ากทม.นานกว่า 5 ปีแล้ว
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวถามพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี ว่าเมื่อไหร่จะมีการเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร เพราะว่ากระทรวงมหาดไทยได้เสนอเรื่องเข้ามาที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าตั้งแต่วันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมาแต่นายกรัฐมนตรี ระบุว่า รอให้บ้านเมืองสงบก่อน จึงมองว่าตอนนี้บ้านเมืองไม่สงบหรืออย่างไร ทำไมไม่ปล่อยให้มีการเลือกตั้งจึงขอเรียกร้องเพื่อความสง่างามและให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.โดยเร็ว จึงเรียกร้องให้พล.ต.อ.อัศวิน ลาออกจากผู้ว่ากทม.
ซึ่งจะทำให้มีการเลือกตั้งเลยซึ่งพล.ต.อ.อัศวินอยู่เกิน 5 ปีแล้ว และไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ควรที่จะลาออกเพื่อให้มีการเลือกตั้งผู้ว่า กทม. คนกรุงเทพมหานครจะได้มีผู้ว่ากทม.ทำงานมาแก้ไขปัญหาให้กับคนกรุงเทพมหานคร
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news