นายกฯ โต้ “ธรรมนัส” ย้ำโครงการจะนะ ครม.ยังไม่อนุมัติลงนาม MOU เพียงรับทราบปัญหาของพื้นที่ เพื่อนำไปสู่การแก้ไข วอนเรื่องจะนะ ขอให้จบเสียที
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โต้กลับร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่อ้างว่าโครงการจะนะ ผ่านความเห็นชอบ ครม.และนายกรัฐมนตรีได้ลงนาม ไปแล้วว่า ต้องย้ำให้เข้าใจครั้ง ว่าการที่ให้ลงไปพื้นที่ครั้งที่แล้ว คือการไปหาข้อมูล ไม่ได้เป็นมติ ครม. ขอให้เข้าใจด้วย ครม.เพียงแต่รับทราบสิ่งที่ประชาชนต้องการ ซึ่งจะต้องใช้กฎหมาย และต้องใช้เวลาอีกนาน เพราะโครงการยังไม่ผ่านการทำประชาพิจารณ์ ทุกอย่างต้องทำประชาพิจารณ์ให้ถูกต้อง ถ้าประชาชนเห็นชอบก็ทำได้ ถ้าไม่ได้ก็อยู่แบบเดิม รัฐบาลมีแต่นโยบาย แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับประชาชน ว่าโครงการจะทำได้หรือไม่ ใครที่มีผลประโยชน์ทับซ้อนอยู่ในพื้นที่ ก็ไปว่ากัน ทุกอย่างต้องดูกฎหมาย เรื่องจะนะขอให้จบเสียที
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ครม.ไม่ได้รับทราบ และไม่ใช่การลงนาม MOU แต่เป็นเรื่องที่ประชาชนเรียกร้องมา เพราะการลงนาม MOU ต้องเข้า ครม. อนุมัติให้ความเห็นชอบ เหตุการณ์นี้ผ่านมาหลายเดือนแล้ว จำได้ว่าเป็นการเพื่อทราบ แนวทางและปัญหาอยู่ตรงไหนต้องไปติดตาม ซึ่งทั้งหมดยังติดเรื่องปัญหาการทำประชาพิจารณ์ และการปรับสีของพื้นที่ จะแก้เองไม่ได้ โดยจะต้องกลับไปเริ่มต้นที่ ศอ.บต. เพื่อทบทวนให้ถูกต้องตามกฎหมาย ตามที่ประชาชนต้องการ กรมโยธาธิการและผังเมือง จะเปลี่ยนสีโซนพื้นที่เองไม่ได้ ถ้าประชาไม่เห็นชอบ รวมถึงระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ขอให้ไปคิดเอาว่าอะไรเกิดประโยชน์หรือไม่เกิดประโยชน์ เพราะเป็นผลประโยชน์โดยรวมของคนในพื้นที่ด้วย
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังกล่าวภายหลังการส่งมอบนโยบายกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ว่า วันนี้เป็นการประชุมของ กอ.รมน.ในปีงบประมาณ 2564 ซึ่งมีการรายงานผลการปฏิบัติในปีงบประมาณ 2564 ต้องขอขอบคุณทุกส่วนราชการ พลเรือน ตำรวจ ทหาร ที่ช่วยกันสนับสนุนร่วมกัน และดำเนินการ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเป็น ผอ.รมน.อยู่แล้ว พร้อมยืนยันว่า ไม่ใช่หน่วยงานการเมืองแต่อย่างใด แต่เป็นการสนับสนุนการทำงานของหน่วยงานปกติ การใช้การแก้ปัญหาไข ปัญหาในทุกพื้นที่ ทั้งภาคใต้ การพัฒนา ทหารมีหน้าที่ในการสนับสนุน สภาวะแวดล้อมให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ส่วนการเมืองวันนี้ก็มีการทำกันอยู่แล้วในส่วนของราชการ ซึ่งทำตามมติของครม. และแผนงานโครงการที่รัฐบาล ซึ่งก็มาจากฝ่ายการเมืองทั้งสิ้นพร้อมกับขอกรุณาเข้าใจกันให้ถ่องแท้สักที
โดยนายกรัฐมนตรี ได้ชื่นชมผลงานการปฏิบัติงานของ กอ.รมน.ประจำปีงบประมาณ 2564 แต่ยังมีหลายอย่างที่ต้องแก้ไขปรับปรุง ทบทวน สิ่งใดที่มีผลสำเร็จแล้วก็เตรียมทำต่อ สิ่งใดที่มีปัญหาอยู่ก็แก้ไข สิ่งใดที่ยังไม่ได้ทำก็ทำ ผ่อนได้ให้นโยบายไปหมดแล้ว และมีแผนแม่บทต่างๆซึ่งจำเป็นต้องปรับให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทยุทธศาสตร์ชาติแผนปฏิรูป แผนสภาพัฒน์ฉบับที่ 13 ในปี 2565 หากไม่มีหลักการเหล่านี้ ก็จะไม่สามารถเดินหน้าประเทศไทยได้ไม่เกิดความยั่งยืน ทุกอย่างจะต้องมีการวางแผนและเป็นไปตามแผน ต้องขอบคุณทุกคนส่วน ตนเองให้ความสำคัญกับเรื่องโครงการความมั่นคงมั่งคั่งและยั่งยืน จะต้องเข้าถึงปัญหาและแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด จึงจะสามารถเดินหน้าประเทศไปได้ด้วยดี ทุกคนมีความเดือดร้อนลำบากโดยเฉพาะในช่วงยุคโควิด รัฐบาลพยายามทำอย่างเต็มที่แล้ว ที่จะพัฒนาประเทศมากพอสมควรในสถานการณ์โควิด-19 ขอให้ทุกคนร่วมมือกันฉีดวัคซีน สวมหน้ากากอนามัย มาตรการด้านสาธารณสุข ทุกอย่างจะไปได้ทั้งหมด ขอให้นายกรัฐมนตรีอย่าต้องหนักใจ ในทุกๆเรื่อง เพราะอยากจะแก้ไขปัญหาทีละเรื่องให้หมดไป ไม่อยากให้มีอะไรมาผูกมัดซึ่งกันและกัน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news