“อนุดิษฐ์” เผยความคืบหน้าตรวจสอบโครงการจัดตั้งศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน (ศูนย์ 191) ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มูลค่าเกือบ 8 พันล้านบาท
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบในโครงการจัดตั้งศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน (ศูนย์ 191) ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มูลค่าเกือบ 8 พันล้านบาทที่มีผู้ร้องเรียนว่า การดำเนินการส่อไปทางทุจริตว่า เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา กมธ.ป.ป.ช.ได้เชิญคณะกรรมการจัดทำเอกสารขอบเขตงาน (คณะกรรมการ TOR) ของ สตช. 2คณะ มาให้ถ้อยคำ รวมถึงปัญหาข้อขัดข้องของการดำเนินการโครงการศูนย์ 191 โดยทั้ง 2 คณะได้ชี้แจงว่า โครงการฯมีความซับซ้อนทางเทคโนโลยี การสื่อสาร และต้องบูรณาการความต้องการจากหลายภาคส่วน โดยโครงการนี้มีการล้มประมูลโครงการไปแล้ว 2 ครั้ง และขณะนี้สถานะของโครงการอยู่ระหว่างขั้นตอนการจัดทำ TOR เพื่อการจัดซื้อจัดจ้างในครั้งที่ 3 โดยผู้ร้องเรียนได้กล่าวหาว่า มีการนำข้อมูลสำคัญใน TOR ซึ่งถือเป็นความลับทางราชการไปเปิดเผยให้บริษัทที่มีตัวย่อว่า SK ทราบล่วงหน้าก่อนประกาศต่อสาธารณชนเพื่อเอื้อประโยชน์และทำให้ได้เปรียบผู้แข่งขันรายอื่น ซึ่ง กมธ.ป.ป.ช.ตรวจสอบเบื้องต้น เชื่อว่ามีข้อมูลรั่วไหลก่อนการประกาศ TOR จริง
ขณะที่ ผู้ชี้แจงจาก สตช.ยืนยันว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้แก้ไขข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นแล้ว โดยแต่งตั้งคณะกรรมการปรับปรุง TOR ชุดใหม่ เพื่อจัดทำ TOR สำหรับการประมูลครั้งที่ 3 ซึ่ง กมธ.ป.ป.ช.ได้ฝากข้อเสนอแนะไปยัง ผบ.ตร.ให้กำชับถึงการรักษาความลับของ TOR ที่ต้องไม่รั่วไหลก่อนการเผยแพร่ต่อสาธารณะ แม้ สตช. จะยืนยันว่ามีความตั้งใจและดำเนินการด้วยความรอบคอบก็ตาม แต่ต้องถือว่ามีความล่าช้า และทำให้ประชาชนผู้ใช้บริการเสียประโยชน์ จึงอยากให้ทำด้วยความโปร่งใส โดยเฉพาะ TOR ที่ต้องไม่รั่วไหลก่อนการเผยแพร่ต่อสาธารณะ หากจะดำเนินการโครงการนี้ให้สำเร็จ สตช.ต้องเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกส่วน
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news