ครม.เห็นชอบหลักเกณฑ์กำหนดค่าใช้จ่ายUCEP
ครม.เห็นชอบหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตหรือUCEP(ฉบับที่ 3)เพิ่มรายการในหมวดที่ 3 ค่ายาและสารอาหารทางเส้นเลือดจำนวน 874 รายการ เพื่อให้ครอบคลุมการรักษาโรคร่วมกับอาการเจ็บป่วยฉุกเฉิน
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต (ฉบับที่ 3) ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ซึ่งเป็นการเสนอขอปรับปรุงบัญชีและอัตราค่าใช้จ่ายแนบท้ายของหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต(UCEP) ที่ครม.เคยมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2560 และ 28 สิงหาคม 2561 ซึ่งครั้งนี้เป็นการขอปรับปรุงครั้งที่ 2 โดยขอเพิ่มรายการในหมวดที่ 3 ค่ายาและสารอาหารทางเส้นเลือดจำนวน 874 รายการ เพื่อให้ครอบคลุมการรักษาโรคร่วมกับอาการเจ็บป่วยฉุกเฉิน
ทั้งนี้? พบว่าที่ผ่านมาสถานพยาบาลไม่สามารถเบิกค่าใช้จ่ายบางรายการที่มีความจำเป็นต้องใช้กับผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต โดยเฉพาะกรณีเป็นโรครักษาร่วม เช่น ป่วยเป็นโรคเรื้อรังแล้วมีอาการฉุกเฉิน ซึ่งหากไม่รักษาโรคร่วมดังกล่าวแล้วจะรักษาอาการฉุกเฉินไม่ได้ จึงจำเป็นต้องเพิ่มยาบางรายการเข้ามาในบัญชี โดยรายการในหมวดที่ 3 ค่ายาและค่าสารอาหารทางเส้นเลือดจำนวน 874 รายการที่เพิ่มขึ้นมานั้น เป็นรายการยาที่อยู่ในบัญชีข้อมูลยาและรหัสยามาตรฐานของไทย เช่น CELEBREX บรรเทาอาการอักเสบและอาการปวดในโรคข้อกระดูกเสื่อมและข้ออักเสบรูมาตอยด์ ราคาต่อหน่วยอยู่ที่ 29.188 บาท และ DYNASTAT(SEARLE) ระงับอาการปวดหลังผ่าตัด ราคาต่อหน่วย 279.7435 บาท เป็นต้น
น.ส.ไตรศุลีกล่าว่วา ที่ผ่านมาครม.มีมติเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2560 เห็นชอบหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต (UCEP) เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตสามารถเข้ารับการรักษาที่สถานพยาบาลที่ใกล้ที่สุดได้ทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ภายใต้นโยบาย “เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่” ของรัฐบาล โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2560 เป็นต้นมา และครม.มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์ UCEP (ฉบับที่2) เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2561 โดยได้เพิ่มรายการในบัญชีและอัตราค่าใช้จ่ายแนบท้ายจำนวน 1,649 รายการ
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news