“วิษณุ” เผยกระแสถอดใจลาออกจากตำแหน่ง
“วิษณุ” เผยกระแสถอดใจ ระบุเคยบอก นายกฯ ขอลาออกตาม “สมคิด” เปรยรัฐบาลหน้าขอพักยาว-อยู่เลี้ยงหลาน
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวถอดใจจะลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ว่า ข่าวดังกล่าวไม่เคยพูดผ่านสื่อแต่ยอมรับว่าเคยพูดมานานแล้ว และไม่เคยพูดในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งจะเปรยแบบนั้นทำไม่ได้ แต่การพูดคุยในวงสนทนาตนเคยพูด โดยนายวิษณุ ระบุว่า ตอนนั้นนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรีลาออก ตนยังบอกจะตามไปด้วย และนายกรัฐมนตรีบอกว่าอยู่ก่อน คนอื่นเขาไป เพราะความจำเป็น แต่ตนยังไม่มีความจำเป็น ซึ่งเป็นการพูดแบบสนทนากัน ไม่ไปตอนนี้แต่รัฐบาลหน้าตนไม่เอาแล้ว ให้หากันเองแล้วกันจะเตรียมใคร ซึ่งที่ตนพูดยังไม่รู้ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลใหม่ และเขาอาจจะไม่ต้องการตนแต่ได้พูดและบอกไปแล้วว่าไม่เอาแล้ว แต่จะมาทิ้งกลางคันก็ยังไม่ได้ และมีผู้สื่อข่าวถามว่าจะออกไปทำอะไร ตนก็บอกว่าออกไปเลี้ยงหลาน พอได้หลานขึ้นมา หลายคนก็มาถามว่า อาจารย์เมื่อได้หลานแล้วก็ไปได้แล้วสิ
ซึ่งความคิดของนายวิษณุที่บอกว่ารัฐบาลหน้าพอแล้วไม่ไหว ยังมีความคิดแบบนั้นอยู่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า มี ส่วนหากรัฐบาลหน้าเป็นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังอยู่ และขอให้อยู่ต่อจะอยู่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ก็ยังมีความคิดแบบเดิม ทั้งนี้เคยบอกกับนายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ว่า รัฐบาลหน้าขอพัก นายวิษณุ ระบุว่า เคยบอกนายกรัฐมนตรีแล้ว รับทราบแล้วแต่ไม่ใช่จะมาออกอะไรตอนนี้ แต่รัฐบาลหน้าขอพักยาว อยากอยู่กับหลาน
“วิษณุ” ระบุฝ่ายตุลาการวินิจฉัยเอง ปม “วิชิต ลีธรรมชโย” ร่วมม็อบ 3 นิ้วผิดจริยธรรมหรือไม่
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายวิชิต ลีธรรมชโย ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ในฐานะผู้ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งประธานแผนกคดีคำสั่งคำร้องขออนุญาตฎีกาในศาลฎีกา ร่วมการชุมนุมกลุ่มราษฎรจะขัดจริยธรรมข้าราชการฝ่ายตุลาการหรือไม่ ว่า ให้ฝ่ายตุลาการวินิจฉัยเอง ส่วนหากจะมีประชาชนไปร้องได้หากมีหลักฐานเป็นที่ประจักษ์ สามารถให้สำนักคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม หรือ กต. ตรวจสอบได้ เนื่องจากเป็นผู้ดูแลประมวลจริยธรรมข้าราชการฝ่ายตุลาการโดยตรง ส่วนจะผิดวินัยข้าราชการตุลาการหรือไม่นั้น นายวิษณุ ระบุว่า ขอให้กต.พิจารณาเอง
“วิษณุ” เผยกกต.ส่งเรื่องให้รัฐบาลประกาศ พ.ร.ฎ เลือกตั้งซ่อมเขตหลักสี่แทน “สิระ” เตรียมเข้าครม.28 ธ.ค.นี้ ยอมรับกรณีนี้ไม่เคยเกิดระบุเจ้าตัวต้องรู้เต็มอกในคุณสมบัติ
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายสิระ เจนจาคะ หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นหน้าที่ ส.ส.เนื่องจากขาดคุณสมบัติ ว่า ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ได้ทำเรื่องส่งมาที่รัฐบาลเพื่อขอให้ออกพระราชกฤษฎีกากำหนดให้มีการเลือกตั้ง เพื่อที่ กกต.จะได้ไปกำหนดวันเลือกตั้ง ซึ่งจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอังคารที่ 28 ธ.ค.นี้ เพราะต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 45 วัน หลังจากที่ศาลวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่ง ก็จะครบประมาณวันที่ 4 ก.พ.65
ส่วนกรณีนายสิระ หน่วยงานหรือองค์ใดที่จะต้องรับผิดชอบ หรือเป็นความผิดส่วนบุคคล นายวิษณุ ระบุว่า ไม่แน่ใจ เพราะเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดมาก่อน ยังไม่เคยเจอแบบนี้ เพราะคุณสมบัติตามมาตรา 98(10)เป็นการห้ามตลอดไป โดยใช้คำว่าไม่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุด เป็นความผิด ตามที่กฎหมายกำหนด และมีการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่ทำการโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา หากครั้งหนึ่งเคยทำก็จะถือว่า เคยตลอดไป หากรัฐธรรมนูญยังกำหนดไว้แบบนี้ ฉะนั้นการพ้นจากตำแหน่งพ้นแน่นอน ซึ่งศาลได้แยกไว้ชัดเจนว่าขั้นตอนต่อไปใครจะต้องรับผิด นายสิระจะต้องรับผิดในส่วนที่จะต้องชดใช้คืน ส่วนใครที่จะเกี่ยวข้องในการรับผิดนั้นต้องไปดูที่เจตนา และความรู้หรือไม่รู้ ซึ่งตนไม่รู้ว่ากระบวนการเป็นอย่างไร นายสิระก็อาจจะรู้หรือไม่รู้ก็ได้ ว่าตัวเองผิด แต่การจ่ายคืนต้องชดใช้อยู่แล้ว
นายวิษณุ กล่าวว่า ในส่วนของ กกต.ในฐานะผู้รับสมัคร ก็ตรวจดูแล้วก็ไม่เห็น ซึ่งโอกาสเป็นไปได้ นั่นแปลว่าเจตนาไม่มี ส่วนนายทะเบียนพรรค ไม่ใช่ว่าเกิดอะไรขึ้นมาแล้วนายทะเบียนต้องรับผิดเสมอไป ขึ้นอยู่กับว่านายทะเบียนรู้หรือไม่รู้ ระมัดระวังหรือไม่ขนาดไหน แต่กรณีของนายสิระ ไม่สามารถที่จะอุทธรณ์ได้แล้ว เพราะศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยจบแล้ว ซึ่งธรรมชาติเรื่องแบบนี้เจ้าตัวจะต้องเซ็นต์รับรองคุณสมบัติตัวเอง เหมือนกับบุคคลที่จะมาเป็น ครม.ในชั้นตรวจคุณสมบัติ ที่เจ้าตัวต้องรับรองคุณสมบัติตนเอง เจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสอบจะรู้ได้จากการถาม ถ้าไม่รู้ก็คือไม่รู้ แต่เจ้าตัวจะรู้อยู่เต็มอก
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews