นายกฯเดินหน้าเพิ่มศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานอีอีซีต่อเนื่อง ผลักดันไทยก้าวสู่ประตูการค้า ศูนย์กลางลงทุนแห่งภูมิภาค คาด ช่วงการก่อสร้างเกิดการจ้างงาน 20,000 ตำแหน่ง/ปี
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เร่งเดินหน้าเพิ่มศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานอีอีซีตามแผนปฏิบัติการโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ.2566-2570 ซึ่ง คาดว่าประโยชน์ที่จะได้รับระหว่างช่วงการก่อสร้างจะทำให้เกิดการจ้างงานประมาณ 20,000ตำแหน่ง/ปี และปี 2571-2580 ประมาณ 12,000 ตำแหน่ง/ปี การเดินทางสะดวกรวดเร็วขึ้น ลดความสูญเสียจากความล่าช้าการเดินทางประมาณ 10.75 ล้านบาท/วัน หรือ 3,900 ล้าน/ปี ลดอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่ 5% ยกระดับชีวิตด้วยระบบขนส่งที่ทันสมัยเชื่อมการเดินทางแบบไร้รอยต่อเดินทางจากกทม.ถึงระยอง ภายใน 1 ชั่วโมง ลดมลภาวะในสิ่งแวดล้อม ลดปัญหาการจราจรเพิ่มประสิทธิภาพถนนในพื้นที่ จากความเร็ว 65 กม./ชม. เป็น 70 กม./ชม. มีเส้นทางรถไฟทางคู่เพิ่มขึ้น 275 กม. ปรับปรุงการก่อสร้างถนนและขยายช่องทางมากถึง 25 เส้นทางภายในปี 2570
นายธนกร กล่าวต่อว่า ด้วยวิสัยทัศน์ของนายกรัฐมนตรีได้มีการผลักดันพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง และต่อยอดโครงสร้างพื้นฐานทุกระบบให้เชื่อมโยง ทั้งทางราง ทางน้ำเชื่อมต่อขนส่งสาธารณะระบบรางจาก สถานีรถไฟความเร็วสูง สนามบินอู่ตะเภาฯ เชื่อมกับเมืองใหม่ และแหล่งท่องเที่ยว เข้าสู่พื้นที่เศรษฐกิจ ส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายพิเศษและ พัฒนาบุคลากร การศึกษา การวิจัย และเทคโนโลยี ภายใต้กรอบ ได้แก่
1. พัฒนาและส่งเสริมการขนส่งสินค้าระบบรางและทางน้ำเป็นระบบหลัก
2. ส่งเสริม การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ
3. เชื่อมต่อโครงข่ายถนน ปรับปรุงช่วงถนนคอขวดแก้ปัญหาจราจรหลักในอีอีซี
4. พัฒนา โครงข่ายคมนาคมเชื่อมต่อพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ นิคมอุตสาหกรรม เมืองที่จะพัฒนาในอนาคต
5. ใช้เทคโนโลยีและระบบอัจฉริยะจัดการจราจรและการขนส่ง
ซึ่งจะดำเนินการภายใต้ยุทธศาสตร์ เพิ่มขีดความสามารถระบบรางและทางน้ำ เชื่อมต่อการขนส่งรูปแบบอื่น เพื่อลดต้นทุนการขนส่งสินค้า ยกระดับโครงข่ายคมนาคมรองรับการเดินทางประชาชน อย่างไร้รอยต่อ เพิ่มสัดส่วนการเดินทางระบบสาธารณะ ส่งเสริมท่องเที่ยวทางรางและทางน้ำเข้าถึงพื้นที่หลักในอีอีซี และยกระดับโครงข่ายคมนาคม ด้วยมาตรการเชิงรุกและเทคโนโลยีสมัยใหม่ ซึ่งเป็นไปตาม Road Map ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และร่างแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 โดยเน้นให้ไทยเป็นสู่ประตู การค้า การลงทุนศูนย์กลางคมนาคมโลจิสติกส์ของภูมิภาคสร้างความร่วมมือกลุ่มประเทศ CLMVT และจีนตอนใต้รวมทั้ง รวมทั้งโอกาสในการพัฒนาความ ร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างอาเซียนกับภูมิภาคอื่นๆ รองรับการเติบโตของอีอีซีในอนาคต
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews