โฆษกเพื่อไทย จี้รัฐทำงานเชิงรุก คุมแพร่ระบาดโควิด19 เตือน อย่านิ่งนอนใจจนดูถูกว่าเป็นสายพันธุ์กระจอก
นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนที่เพิ่มขึ้นโดยในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องวันละ 2,000 คน จาก 3,899 คนในวันที่ 5 มกราคม มาเป็น 7,526 คนในวันที่ 7 มกราคม 2565
จึงมีความกังวลเกี่ยวกับการป้องกันและรับมือกับสถานการณ์การระบาดของภาครัฐ ที่ไม่เท่าทันกับสถานการณ์ของโรค เพราะจากงานวิจัยมีข้อมูลพบว่าการติดเชื้อในระดับบุคคลผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง แต่หากมีการติดเชื้อเป็นวงกว้าง รวมกับผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงที่ยังไม่ได้รับวัคซีน 2 เข็ม ก็อาจจะสร้างแรงกดดันด้านระบบสาธารณสุขได้
ทั้งนี้ ภาครัฐควรต้องเร่งทำงานเชิงรุกในการเตรียมความพร้อมด้านสาธารณสุข ทั้งเครื่องมือ อุปกรณ์ ยา และบุคลากรทางการแพทย์ให้เพียงพอ เพราะจากการลงพื้นที่ในหลายครั้ที่ผ่านมาพบว่ายังมีประชาชนจำนวนมากไม่สามารถเข้าถึงชุด ATK ฟรีได้ หรือแม้กระทั่งหน้ากากอนามัยยังไม่มีเงินเพียงพอที่จะซื้อจนต้องซักหน้ากากอนามัยใช้ซ้ำ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น
ดังนั้นจึงอยากให้รัฐเรียนรู้จากบทเรียนการระบาดในหลายครั้งที่ผ่านมา อย่าผลัดวันประกันพรุ่งในการป้องกันการระบาด อย่าปล่อยให้สถานการณ์บานปลายแล้วประกาศล็อกดาวน์แบบกระทันหันอีก เพราะไม่อย่างนั้นในปี 2565 นี้อาจจะเป็นปีเผาจริงของเศรษฐกิจปากท้องของคนไทยจนยากที่จะฟื้นตัวกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ หากจะรอเพียงความสามารถที่มีอยู่ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ควบรวมอำนาจการบริหารไว้เพียงคนเดียว คงไม่สามารถบริหารจัดการได้ เพราะผลงานที่ผ่านมาพิสูจน์จนเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าล้มเหลวและสร้างความเสียหายให้กับพี่น้องประชาชนมากน้อยเพียงใด ใช้งบประมาณแผ่นดินไป 25 ล้านล้านบาท กู้เงินรวมกว่า 5 ล้านล้านบาทหนี้สาธารณะกว่า 9 ล้านล้านบาท แต่คุณภาพชีวิตคนไทยกลับแย่ลงทุกวัน
รัฐบาลไม่ควรนิ่งนอนใจกับเชื้อโอมิครอนจนดูถูกว่าเป็นสายพันธุ์กระจอก หากกระจอกจริง การเตือนภัยความรุนแรงคงไม่ปรับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 4
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews