“อรรถวิชช์” ลงพื้นที่หาเสียงชุมชนบางบัวร่วมใจฯ

“อรรถวิชช์” ลงพื้นที่หาเสียงชุมชนบางบัวร่วมใจฯ ประชาชนให้การต้อนรับดี ย้ำพร้อมสู้

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ผู้สมัคร ส.ส.เขต 9 หลักสี่-จตุจักร กรุงเทพฯ พรรคกล้า ลงพื้นที่หาเสียงบริเวณชุมชนบางบัวร่วมใจพัฒนาเชิงสะพานไม้ 1 และ 2 พร้อม กล่าวถึงเสียงตอบรับที่ได้จากประชาชนว่า ตนพยายามลงพื้นที่ให้ครบทุกหลังเพราะว่า ตนเคยเป็นส.ส.ในเขตพื้นที่จตุจักรมาก่อน ซึ่งก็ไม่ได้ลงพื้นที่ในเขตหลักสี่ แต่ก็มีความคุ้นเคยกับประชาชนอยู่ พยายามทำให้ประชาชนได้เห็นว่าผลงานในอดีตเรามีอะไรบ้าง ว่าที่ผ่านมาทำกฎหมายมาแล้ว 20 ฉบับ ทั้งเรื่องถนนหนทาง เรื่องการระบายน้ำ ตนถือว่าตนทำได้ดีมาก ครั้งนี้กลับมาบอกอีกครั้งว่าพร้อมลุยพร้อมสู้ หลายคนให้การต้อนรับเป็นอย่างดี หลายคนก็ออกมาให้การต้อนรับ ซึ่งตนเดินลงพื้นที่ในทุกจุดก็ไม่มีจุดไหนที่เกิดปัญหา

ส่วนการปราศรัยในค่ายทหาร เย็นวันนี้นั้นตนต้องการที่จะไปแนะนำตัว ว่าพรรคกล้าคืออะไร แนวปฏิบัตินิยมทำไมถึงสำคัญกับประเทศนี้ หากปลูกฝังแนวปฏิบัตินิยมจะทำให้ชาติมั่นคงได้ ไม่คิดว่าการไปซ้ายสุดหรือขวาสุดจะเป็นทางออก แนวปฏิบัตินิยมสำคัญเพราะแนวการปฏิบัติของรัชกาลที่ 10 ก็พูดน้อยทำเยอะ แนวปฏิบัติแบบนี้ทำให้ชาติ ศาสน์ กษัตริย์เข้มแข็ง พรรคกล้าจะไม่ยอมเป็นขวาตกขอบหรือซ้ายตกขอบเด็ดขาดแนวทางที่เดินอยู่สามารถทำได้และจะนำไปสู่ความปรองดอง ต้องรอดูวันที่ 30 ม.ค.เพราะพรรคหล้าเป็นพรรคเศรษฐกิจ เป็นพรรคการเมืองที่เกิดใหม่ในช่วงนี้ก็เป็นในแนวนี้เยอะแต่ยังไม่มีพรรคไหนส่งผู้สมัครลงสนาม ตนเป็นบททดสอบคนแรก ว่าการเลือกตั้งที่ไม่ได้เกิดความเกลียดความกลัวจะไปได้หรือไม่ ประชาชนอยากเห็นการเมืองแบบนี้ฉะนั้นไม่ลองไม่รู้ ตนมั่นใจว่าคนกรุงเทพฯ อยู่ได้กับการเปลี่ยนแปลงนายกรัฐมนตรีทุกครั้ง นำเทรนใหม่ทางการเมืองมาโดยตลอด ประชาชนคงต้องเลือกทางเลือกที่ดีที่สุดของคนในพื้นที่นี้

พรรคกล้า เตรียมจัดปราศรัยใหญ่ 28 ม.ค.นี้ พร้อมเซอร์ไพรส์ใหญ่ ของประชาชนติดตาม

การลงพื้นที่หาเสียงบริเวณชุมชนบางบัวร่วมใจพัฒนาเชิงสะพานไม้ 1 และ 2 ของ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ผู้สมัคร ส.ส.เขต 9 หลักสี่-จตุจักร กรุงเทพฯ พรรคกล้า ยังกล่าวถึงในวันที่ 28 ม.ค.นี้จะเป็นวันปราศรัยใหญ่ ของพรรคกล้า ว่า จะมีเซอร์ไพรส์ใหญ่ และพรรคเพื่อไทยซึ่งจัดในพื้นที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งจะประชันกันในวันที่ 28 ม.ค.ขอให้ประชาชนติดตาม

สำหรับการเลือกตั้งในวันที่ 30 มกราคมนี้ ตนเชื่อว่าเป็นการชี้ชะตาการเมืองในอนาคตเพราะเราทำแนวทางการเมืองคุณภาพการเมืองสร้างสรรค์และเป็นพรรคเศรษฐกิจเป็นแนวทางที่พรรคการเมืองควรจะเป็น เราไม่รู้ว่าการเลือกตั้งจะอยู่ในกับดักเดิมหรือไม่และจะพ้นจากจุดนี้หรือไม่ การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกด้วยความหวัง อย่าเลือกด้วยความเกลียดความกลัว ยืนยันพร้อมเสียงเป็นไงเป็นกัน นอกจากนี้ในวันเลือกตั้ง พรรคกล้าได้เตรียมคณะทำงานเพื่อตรวจสอบการทุจริตเลือกตั้งไว้ด้วย

ส่วนโครงการคนละครึ่งที่มีการเริ่มใช้ได้อีกครั้งช่วงเดือนกุมภาพันธ์ นั้น ขอย้ำในเรื่องของการเสียภาษีของผู้ค้า ว่าไม่ควรจ่ายแบบเหมาจ่าย ให้เตรียมบิลให้ดีใช้หักภาษีได้เต็มร้อย ตนอยากไปเติมรัฐบาลมากกว่า อะไรทำดีอยู่แล้วก็อยากจะเข้าไปช่วย นาทีนี้ช่วงวิกฤติจะต่อว่า เปลี่ยมม้ากลางศึกก็ไม่ได้ ก็ต้องหนุนเพื่อให้อยู่ครบเทอมให้ได้

ส่วนกรณีที่พรรคพลังประชารัฐนโยบาย”รักลุงตู่กาเบอร์ 7 ” นั้น นายอรรถวิทย์ กล่าวว่า ตอนนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็คงเป็นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ก่อนเพราะโครงสร้างของพลังประชารัฐในขณะนี้ส.ส.หายไป 21 ที่นั่ง ถ้าปรับเปลี่ยนนายก วิกฤตเศรษฐกิจ วิกฤตโควิดก็ไม่ต้องแก้แล้ว เพราะเสียสมาธิทั้งหมด พร้อมย้ำว่าเห็นเปลี่ยนม้ากลางศึกไม่ได้ ที่พรรคพลังประชารัฐ ชูว่า”รักลุงตู่กาเบอร์ 7 ” นั้น ไม่ใช่จุดแข็งการหาเสียงในครั้งนี้ เพราะเลือกพรรคไหน ก็ได้พลเอกประยุทธ์ ประชาชนควรเลือกในสิ่งที่คิดว่าชาติควรจะเป็น และไม่หวั่นใจ ว่าพรรคพลังประชารัฐจะชนะ เพราะส่วนตัวเองก็ไม่เคยแพ้ใครในเขตเลือกตั้งเช่นเดียวกัน

ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่

Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th

Twitter : https://twitter.com/innnews

Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN

TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news

LINE Official Account : @innnews