“ชัยวุฒิ” อาการดีขึ้น สั่งรุกงานแก้ปัญหาข่าวปลอม
เลขารมว.ดีอีเอส เผย “ชัยวุฒิ” อาการดีขึ้น สั่งรุกงานแก้ปัญหาข่าวปลอม- แก็งคอลเซนเตอร์ หลังพบกลโกงแบบใหม่ปลอมเอกสารราชการหลอกประชาชน
นายเอกสิทธิ์ คุณานันทกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส กล่าวถึงความคืบหน้า อาการของ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่รักษาอาการโควิด-19 ว่า ล่าสุด นายชัยวุฒิ อาการดีขึ้น ไม่มีไข้ หรืออาการใดๆ แต่ยังอยู่ในการดูแลของเเพทย์ จนครบระยะรักษาตัว โดยระหว่างนี้ได้มอบหมายให้ตนปฏิบัติหน้าที่เเทน ในการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการการประสานศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม และมอบนโยบายการบูรณาการการประสานศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม
โดยนายเอกสิทธิ์ กล่าวว่า นายชัยวุฒิ มีความเป็นห่วง เเละให้ความสำคัญกับ สถานการณ์ข่าวปลอมในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะ เรื่องการหลอกลวงทางออนไลน์ และเเก็งมิจฉาชีพ call center ที่ตอนนี้มีการทำเอกสารปลอมทางราชการ ไปหลอกลวงประชาชน หรือมีการโฆษณาชวนเชื่อให้ซื้อสินค้า ทางออนไลน์ หรือข่าวปลอมที่สร้างความตื่นตระหนก เเละเสียหายให้กับคนในสังคม เราจึงผนึกกำลังรวม ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ซึ่งมีเครือข่ายผู้ประสานงานกว่า 300 หน่วยงานที่ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริง อีกทั้งมีเครือข่ายนิติกรที่ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบและยืนยันข่าวให้กับศูนย์ฯ ซึ่งกระทรวงดีอีเอสให้ความสำคัญกับการบูรณาการการทำงานร่วมกันให้ได้เกิดผลสัมฤทธิ์สูงสุด
นอกจากนี้ เครือข่ายผู้ประสานงาน ยังเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ได้นำเสนอข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องและสื่อสารเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ได้แจ้งเตือนให้แก่ประชาชน และหน่วยงานต่างๆ ทราบถึงข้อมูลอันเป็นเท็จ และข้อมูลที่ถูกต้องผ่านช่องทางต่างๆ ด้วยสภาพปัจจุบันที่สื่อสังคมออนไลน์ และสื่อในระบบอินเทอร์เน็ต ถูกผู้ไม่หวังดีใช้เป็นช่องทางนำเสนอข่าวสาร ข้อมูลอันเป็นเท็จ มีการตัดต่อข้อมูล เนื้อหา การนำเสนอข้อมูลข่าวสารโดยปราศจากข้อเท็จจริง เพื่อสร้างผลกระทบในทางลบต่อสังคมและประชาชนโดยรวม นำมาซึ่งความเสียหายทางสังคม เศรษฐกิจและประชาชนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจึงได้มีความพยายามในการแก้ไขปัญหาข่าวปลอมโดยรัฐบาลมุ่งมั่นให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาการรับรู้ข้อมูลข่าวสารผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ให้กับประชาชน ด้วยความห่วงใยในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร
ทั้งนี้ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ที่ดำเนินการโดยกระทรวงดีอีเอสได้มีการทำงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติประกอบด้วยศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมและความมั่นคง และศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศขับเคลื่อนการทำงานแก้ไขปัญหาข่าวปลอม โดยใช้เครื่องมือทางกฎหมาย มุ่งเน้นข่าวปลอมที่สร้างความตื่นตระหนกและความเสียหายกับประชาชนและสาธารณชนในวงกว้าง
ด้านนางสาวชมภารี ชมภูรัตน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงดีอีเอส ระบุว่า ปีงบประมาณ 2564 ที่ผ่านมา พบ 10 อันดับข่าว ที่มีคนสนใจมากที่สุด ได้แก่ โรคงูสวัด หากขึ้นวนรอบตัวจะทำให้เสียชีวิต9 (ข่าวปลอม), กระทรวงแรงงาน เปิดรับแรงงานไทยไปทำงานเกาหลี ประเภทกิจการเกษตร/ปศุสัตว์ (ข่าวจริง), รถกระบะตำรวจ ค่าเช่าเดือนละ 48,000 บาท (ข่าวปลอม), ยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษบูรพาวิถีและกาญจนาภิเษก ช่วงเทศกาลปีใหม่ 5 วัน (ข่าวจริง)
สูดดมแก๊สไนตรัสออกไซด์ต่อเนื่องหรือใช้เป็นประจำ เสี่ยงเกิดโรคหัวใจเฉียบพลัน ประสาทหลอน (ข่าวจริง), สมุนไพรปอบิด ช่วยรักษาอาการท้องร่วง แก้บิด แก้ท้องเสียได้ (ข่าวจริง), ธอส. แจกเงินปีใหม่ให้ลูกค้าสินเชื่อบ้าน ผ่อนดี 48 เดือน รับเงิน 500 – 1,000 บาท (ข่าวจริง), ประกันสังคม เปิดให้ผู้ประกันตนมาตรา 33 และ 39 เปลี่ยน รพ. ในปี 65 (ข่าวจริง), กรมการขนส่งทางบก ใช้ระบบตัดแต้มมาพิจารณาพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ สำหรับผู้ขับรถสาธารณะและรถขนส่ง (ข่าวจริง) และฉีดวัคซีนซิโนแวค ซิโนฟาร์ม แอสตร้าฯ เดินทางเข้าประเทศอังกฤษได้ โดยไม่ต้องกักตัว (ข่าวจริง)
ขณะที่ภาพรวมของข้อความข่าวคัดกรองของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ที่ผ่านมาช่องทางที่มีการพบเบาะแสมากสุดมาจาก SocialListeningTools คิดเป็นร้อยละ 99.83 โดยในช่วงปีงบประมาณ 2564 ศูนย์ใช้เครื่องมือในการตรวจสอบข้อความที่เป็นกระแสมากขึ้นประมาณ 16 เท่า และมีจำนวนเรื่องที่ต้องส่งตรวจสอบเพิ่มขึ้นกว่าปีงบฯก่อนหน้าร้อยละ 3.78
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews