นักปกป้องสิทธิจากเครือข่ายประชาชนผู้เป็นเจ้าของแร่ เข้ายื่นหนังสือต่อ หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านทั้งหมด เพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรดำเนินการตรวจสอบกรณีบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด เตรียมรีสตาร์ทเหมืองทอง จ.พิจิตรอีกครั้ง
โดยเหมืองทองดังกล่าวสร้างผลกระทบให้กับประลาชนในพื้นที่และสิ่งแวดล้อม 4ประการใหญ่ คือ
1.ประชาชนในพื้นที่ ถูกกดให้อยู่ในระดับต่ำมาโดยตลอด เพราะไม่มีมาตรการทางสังคมและการมีส่วนร่วมของประชาชนและชุมชนที่บังคับใช้ และ ‘การปรึกษาหารือให้แสดงความคิดเห็นพอเป็นพิธีกรรม’ เพื่อจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
2.ระดับความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาชุมชนของเจ้าของกิจการก็อยู่ในระดับต่ำ
3. เป็นการทำเหมืองโดยไม่มีแนวกันชนที่ต้องรักษาระยะห่างระหว่างชุมชนกับเขตเหมืองแร่ จนทำให้หมู่บ้านเขาหม้อ ต.เขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร ต้องกลายเป็นหมู่บ้านร้าง
4. เป็นการทำเหมืองที่หลีกเลี่ยงหรือหาช่องโหว่ของกฎหมาย เพื่อไม่สร้างหลักประกันและแผนปฏิบัติการในการฟื้นฟูเหมืองที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม
เป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าเสียใจที่รัฐบาลไทยไม่ได้นำข้อมูลนี้ไปใช้สู้คดีในชั้นอนุญาโตตุลาการอย่างเพียงพอ เสมือนว่ามีพฤติกรรมสมยอมให้ไทยต้องแพ้คดี หรือแลกกับการไม่แพ้คดีโดยให้คิงส์เกตกลับมาทำเหมืองทองใหม่ได้
โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวว่า เรื่องนี้ ตนเองและส.ส.พรรคเพื่อไทยเคยอภิปรายในสภาผู้แทนราษฎรหลายครั้งแล้ว เพราะ ฉะนั้นการตรวจสอบที่ทางเครือข่ายต้องการจะทำอย่างเข้มข้น และในปีนี้ เรื่องดังกล่าวก็จะเข้าสู่การอภิปรายทั่วไปด้วย จะซักฟอกปอกเปลือกพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ส่วนกลไกของสภาที่ทำได้เร็วที่สุดคือจะต้องตั้งกระทู้สดเพื่อถามรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องถึงข้อเท็จจริง นอกจากนี้ จะพลักดันเข้าสู่ชั้นกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบเชิงลึก เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องหนึ่งที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล และจะไม่ยอมแน่นอนที่จะนำทรัพย์สมบัติของชาติไปแลกกับความผิดพลาดของพล.อ.ประยุทธ์
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews