นายกรัฐมนตรี ยืนยันการยุบสภาขึ้นอยู่หลายฝ่าย – พรรคร่วม ยันเตรียมทางออกไว้แล้ว บอกกฏหมายลูกไม่ผ่าน ไม่คิดปรับ ครม.เชื่อแพ้เลือกตั้งซ่อม ไม่มีผล ประชาชนส่วนใหญ่ยังเชื่อมั่นตัวนายกฯ ลั่นไม่ท้อชูกำปั้นบอกเป็นทหารผ่านศึก
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองและวิเคราะห์เรื่องการยุบสภาว่า ได้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งตนก็ต้องวิเคราะห์สถานการณ์ ปรึกษาหารือ กับคนที่เกี่ยวข้องทุกคน ไม่เช่นนั้นจะบอกว่านายกรัฐมนตรี จะตัดสินใจแต่เพียงผู้เดียว แต่จะต้องตัดสินใจ บนข้อมูลพื้นฐานที่มีอยู่ ขณะนี้ยังไม่มีอะไร สิ่งสำคัญที่สุด ที่รัฐบาลต้องการ คือ การทำงานให้ได้ บ้านเมืองมีปัญหา ประชาชนเดือดร้อน ก็ต้องทำงานให้ได้ไปก่อน การเมืองก็ว่าในเรื่องของการเมืองต่อไป
และต่อไปก็จะต้องเผชิญกับการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 ซึ่งต้องเตรียมความพร้อมในการชี้แจง หลายอย่างมีการชี้แจงไปแล้ว พร้อมให้เกียรติในการอภิปราย พร้อมยังยืนยัน ไม่มีการต่อรองขอเก้าอี้รัฐมนตรี จากกลุ่ม ส.ส.ที่พรรคพลังประชารัฐขับออก และไม่อยู่ในแนวทางที่จะต้องปฏิบัติในเวลานี้ เพราะยังต้องทำงานก่อน
ส่วนการเลือกตั้งซ่อม เขต 9 จตุจักร-หลักสี่ ที่พรรคพลังประชารัฐแพ้ เป็นเพราะกระแสนิยมในตัวของนายกรัฐมนตรีหรือไม่ พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ประเทศไทยมี 400 เขต จะแพ้ 3 เขต ก็เป็นเรื่องของการแพ้ชนะ ก็ว่ากันไป ขึ้นอยู่กับความนิยมของประชาชน จะบอกว่าเป็นเพราะกระแส นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลอยู่ในช่วงขาลง เรื่องนี้ตนก็ไม่ทราบว่า ขาลงหรือขาขึ้น เพราะตนก็ขึ้นและลงบันใดอยู่ทุกวัน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการทำงานมากกว่า
ซึ่งในส่วนของการทำงาน ก็ได้ให้กำลังใจกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะการทำงานนั้นไม่ง่าย โดยเฉพาะสถานการณ์การเมืองในตอนนี้ ซึ่งพรรคร่วมในรัฐบาล พยายามทำงานด้วยความเข้าใจ ซึ่งกันและกัน ยืนยัน ไม่มีอะไร และได้พูดคุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคแล้ว ส่วนมีการให้กำลังใจพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ อย่างไรนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้ให้กำลังใจกับทุกคนเสมอ ตราบใดที่ยังทำงานและทำความดีร่วมกัน ก็ต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
ขณะที่การประสานงานกับพรรคเศรษฐกิจไทย ก็เหมือนกับพรรคการเมืองที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ให้เข้าใจตรงกันว่า เราทำงานเพื่อประเทศชาติ ให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปก่อน ให้ได้โดยเร็วที่สุด ส่วนใครจะพูดอย่างไรก็แล้วแต่ เพราะตนไม่ใช่คนเจ้าคารี้ สีคารมณ์ กับใครทั้งสิ้น ใครพูดอะไรก็รับฟัง
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า พรรคเศรษฐกิจไทยเป็นพรรคร่วมรัฐบาล และพล.อ.ประวิตร ก็บอกว่าเช่นนั้น และตนก็ยังไม่คิดปรับครม. เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่มีความจำเป็นขนาดนั้น
ทั้งนี้ เมื่อถามย้ำว่า สถานการณ์ปัจจุบันนายกรัฐมนตรี จำเป็นต้องไปนั่งเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้คิด แต่ถ้าอะไรจะเกิดขึ้นมันก็เกิดขึ้น แต่ขณะนี้สถานการณ์ยังไม่เลวร้าย หรือ แย่ไปทั้งหมด และเชื่อมั่นว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังเข้าใจ ไว้ให้ถึงสถานการณ์ใหญ่ค่อยว่ากัน
ส่วนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.กับการเลือกตั้งใหญ่ อะไรจะเกิดขึ้นก่อน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ต้องรอดูกฏหมายลูก สถานการณ์การเมืองเป็นส่วนประกอบ ซึ่งการเลือกตั้ง กทม.จะมีขึ้นในเดือน พ.ค. ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดหรือเกิดอุบัติเหตุโดยที่ไม่คาดหมาย ส่วนการเลือกตั้งใหญ่ก็ต้องรอกฏหมายลูก ซึ่งไม่มีข้อกังวลใดๆ เพราะมีขั้นตอนดำเนินการอยู่แล้ว ก็หวังว่าไม่ให้มีเหตุการณ์เกิดขึ้น ก็จะเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด ซึ่งไม่ขอยืนยัน ว่าจะไม่มีการยุบสภาระหว่างทำกฏหมายลูก แต่ยอมรับว่า มีการประเมินและเตรียมการแก้ปัญหา หากกฏหมายลูกไม่ผ่าน หรือมีเหตุให้ตกไป
ในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรี ยังบอกด้วยว่า ตนเองไม่มีไม้เด็ดอะไร ในมือตอนนี้มีแต่กระดาษที่ถืออยู่ ซึ่งวันนี้ตนมีแต่ความมั่นใจ ตั้งใจจริง ที่จะทำเพื่อประชาชนและประเทศชาติเท่านั้น ซึ่งระหว่างพูดนายกฯ ได้ชูกำปั้นทุบที่อก พร้อมบอกว่า ไม่กดดันในการทำงานกับเวลาที่เหลืออยู่ เพราะปัญหาต่างๆ จะแก้ภายในรัฐบาลเดียวไม่ได้ ต้องช่วยกันสานต่อใครจะมารัฐบาลก็ต้องทำต่อ
และเมื่อถามย้ำว่า วันนี้นายกรัฐมนตรี ยังสู้อยู่หรือไม่ นายกฯ ได้ถามสื่อกลับ ว่าวันนี้วันอะไร ก่อนจะบอกเองว่าวันทหารผ่านศึกไง พร้อมกล่าวว่า ไปละโชคดี
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews