“ชลน่าน”ย้ำฝ่ายค้านยังเหนียวแน่นตรวจสอบรัฐบาล
“ชลน่าน”ย้ำฝ่ายค้านยังเหนียวแน่นตรวจสอบรัฐบาล ทดสอบองค์ประชุมทุกครั้ง จับตาเสียบบัตรแทนกัน
นายชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย รวมถึงตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน ทั้งจากพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อชาติ กล่าวภายหลังการประชุมหัวหน้าพรรคการเมืองฝ่ายค้านถึงแนวทางการทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้านในการตรวจสอบการทำหน้าที่ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า ฝ่ายค้านจะยังคงทำงานร่วมกัน และมีความเข้าใจร่วมกัน เพื่อประโยชน์ของประชาชนโดยรวม
พร้อมย้ำว่า จะมีการตรวจสอบองค์ประชุมอย่างเข้มข้นทุกสัปดาห์ ซึ่งจะเป็นวันไหน เมื่อใด อย่างไรนั้น ฝ่ายค้านจะหารือกันเป็นการภายในก่อน และจะเสนอเป็นญัตติขอตรวจสอบองค์ประชุมด้วยการเสียบบัตรก่อนการทำหน้าที่ในโอกาสต่าง ๆ แทนการแสดงตนก่อนที่จะมีการลงมติตามที่เคยดำเนินการมาก่อนหน้านี้ เพราะเกิดปัญหาความสับสนในขั้นตอนปฏิบัติจากหลักการสำคัญ ที่ฝ่ายค้านต้องการตรวจสอบองค์ประชุมของรัฐบาล และจะติดตามด้วยว่า จะมีการเสียบบัตรแทนกันของ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่
ส่วนการเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาลของฝ่ายค้านในสัปดาห์หน้าว่า จะเสมือนการซักฟอกรัฐบาล หลังรัฐบาลมีข้อบกพร่องในการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งฝ่ายค้าน จะอภิปรายและให้ข้อเสนอแนะแก่คณะรัฐมนตรี
ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ ในฐานะรองประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรอบการอภิปรายว่า ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่เป็นการอภิปรายวันแรกนั้น จะเป็นการอภิปรายของกลุ่มหัวหน้าพรรคการเมืองฝ่ายค้าน นำโดย นายชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายพิธา ลิ้มเจริญ รัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกต หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ และนายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังประวงชนไทย
โดยหลังจากนั้น จะเข้าสู่เนื้อหาการอภิปราย 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มเศรษฐกิจปากท้อง กลุ่มโรคระบาดทั้งในคน และในสัตว์ กลุ่มทุจริตคอร์รับชัน และกลุ่มเรื่องอื่น ๆ ก่อนที่นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน จะเป็นผู้อภิปรายสรุป ในช่วงดึกของวันที่ 18 กุมภาพันธ์
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews
